วันที่ 8 มี.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องกำหนดอันตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารและค่าบริการอื่น สำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน (TAXI-METER) ที่จดทะเบียนในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานครนั้น เป็นผลมาจากที่ประชุมการพิจารณากำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารและค่าบริหารอื่นของแท็กซี่เมื่อเดือนต้นธันวาคม 2559 ได้อนุมัติให้ปรับอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่ใน 32 จังหวัด (ไม่นับรวมกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น และ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี) เนื่องจากอัตราค่าโดยสารของรถแท็กซี่ใน 32 จังหวัด ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่ปี 2537 หรือ 20 ปีก่อน และส่วนใหญ่ยังใช้ค่าโดยสารแบบเหมาจ่าย
สำหรับในส่วนของผู้ให้บริการรถแท็กซี่ จ.พิษณุโลก บริเวณจุดรับผู้โดยสารภายในสถานีขนส่งแห่งที่ 2 ถ.มิตรภาพ อ.เมืองพิษณุโลก วันนี้มีบรรดาคนขับรถแท็กซี่ต่างมาจอดรอรับผู้โดยสารกันเป็นจำนวนมากและคึกคักเป็นพิเศษ โดยนายคำรณ หนุนจันทร์ อายุ 55 ปี หนึ่งในผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ เผยว่าด้วยความดีใจว่า หลังจากตนเองทราบข่าวว่ามีการปรับขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่จาก 35 บาท เป็น 40 บาท ตนเองและเพื่อนร่วมอาชีพก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับคนทำอาชีพนี้ ถึงแม้จะไม่มากมายนักแต่ก็ถือว่าพอถูไถไปได้ ซึ่งตนตัดสินใจเช่าซื้อรถจากบริษัทโดยตรง พร้อมวางเงินดาวน์จำนวน 200,000 บาท ส่งรถเดือนละ 20,000 บาท ทั้งสิ้น 48 งวด ส่วนรายรับในแต่ละวันจะอยู่ที่ 800 – 1,000 บาท ถือว่าก็พอจุนเจือนำมาเลี้ยงดูครอบครัว หากใครที่มารับจ้างขับแท็กซี่เป็นรายวันจะเช่าอยู่ที่คันละประมาณ 1,000 บาท หักค่าเติมแก๊ส LPG และจ่ายคืนบริษัทจะเหลืออยู่ที่ประมาณ 300 บาทต่อวัน ส่วนในเรื่องของการรับผู้โดยสารนั้นจะไม่มีการแย่งลูกค้ากัน แต่จะมาจอดเข้าคิวรอรับผู้โดยสารตามลำดับ นอกจากนี้ทางกองพลทหารราบที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 และกรมขนส่งทางบก ยังเข้ามาดูแลจัดการความเรียบร้อยในส่วนของรถแท็กซี่ จ.พิษณุโลก ให้ไปในทิศทางเดียวกัน คิดอัตราค่าโดยสารระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก 40 บาท หลังจากนั้นคิดอัตราค่าบริการกิโลเมตรละ 6 บาท แต่ในส่วนที่อยากให้ปรับปรุงแก้ไข คือ อยากให้เจ้าหน้าที่มาจูนมิเตอร์ให้คิดตามระยะเวลารถติดด้วย เพราะที่ใช้อยู่เป็นมิเตอร์แบบคิดตามระยะทางกิโลเมตรเท่านั้น.
………………………………………………………………………………………………..