รถบรรทุกพ่วงชนรถบรรทุกสินค้าการจราจรติดขัดบนถ.พล-อต.ใกล้แยกประโดก

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 ก.พ. 2560 พ.ต.ท.เอกชัย  พรมทอง สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เสียหลักพุ่งชนกันจำนวน 3 คัน และมีเพลิงลุกไหม้ตัวรถ บนถนนเส้นพิษณุโลก – อุตรดิตถ์ ฝั่งขาขึ้นสู่ภาคเหนือ บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. หมู่ 6 ต.ดอนทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรีบรุดตรวจสอบพร้อมประสานรถน้ำดับเพลิงจาก อบต.ดอนทอง และ อบต.สมอแข จำนวน 2 คัน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 2 คัน รถเทลเล่อร์ 1 คัน ชนกันช่วงจุดยูเทิร์นกลับรถจนเสาไฟส่องสว่างริมทางหักโค่นลงมาขวางถนน ส่งผลทำให้การจราจรติดขัด รถยนต์ไม่สามารถขับผ่านไปได้ รถติดเป็นระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ต้องปิดช่องทางการจราจรเพื่อเร่งเคลียร์รถบรรทุกที่เกิดอุบัติเหตุออกจากพื้นที่ และให้ประชานใช้เส้นทางเบี่ยงแทน

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยตรวจสอบที่รถบรรทุกพ่วงทะเบียน 81-6980 ทะเบียนลูกพ่วง 81-6981 พิจิตร ที่บรรทุกข้าวโพดมาเต็มคันรถ พบเพลิงลุกไหม้ที่ห้องเครื่องยนต์ด้านหน้า สภาพเสียหายพังยับเยิน จึงลากสายยางฉีดน้ำจนไฟสงบลง ส่วนคนขับ คือ นายภักดี  โภธิคามบำรุง อายุ 32 ปี ชาว จ.พิจิตร พร้อมกับ นายวีระพงษ์  โภธิคามบำรุง อายุ 60 ปี บิดา พยายามหนีออกมานอกตัวรถได้อย่างหวุดหวิด ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งนายภักดีที่อยู่ในอาการตื่นตกใจให้การว่า ขณะที่ตนเองพร้อมกับบิดา กำลังขับรถบรรทุกพ่วงมาจาก จ.น่าน เพื่อไปส่งข้าวโพดที่ อ.วังโปร่ง จ.เพชรบูรณ์ ระหว่างทางขับมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นจุดยูเทิร์นกลับรถ ปรากฏว่ามีรถเทลเล่อร์จอดรออยู่ แต่เมื่อขับมาใกล้คนขับรถคันดังกล่าวตัดสินใจกลับรถกะทันหัน เป็นเหตุทำให้ไม่สามารถหยุดรถทันจึงหักพวงมาลัยหลบพุ่งขึ้นเกาะกลางถนนข้ามไปอีกฝั่งถนน และไปชนกับรถบรรทุกพ่วงอีกคันที่ขับมาตามปกติจนเกิดเพลิงลุกไหม้ ส่วนที่รอดตายมาได้ในครั้งนี้ คาดว่าอาจเป็นเพราะบารมีของพระเครื่องที่ห้อยคอติดตัวทุกวันช่วยคุ้มครอง คือ หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ จ.พิจิตร หลวงพ่อโม วัดห้วยกรด จ.ชัยนาท และ หลวงพ่อเกษมเขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกตัวคนขับรถบรรทุกพ่วงไปสอบปากคำเพิ่มเติม และสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดีดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

…………………………………………………………………………………………………………………………………………..

แสดงความคิดเห็น