วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ชั้น 7 ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหวัดพิษณุโลก เป็นประธานการประชุม กรณีร้องเรียนร้องทุกข์ นายมงคล หุ่นพิกุลทอง อดีตผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาวังทอง ฉ้อโกงประชาชนในเขตอ.วังทอง จ.พิษณุโลก จำนวน 83 ราย มูลค่าความเสียหาย 10,186,000 บาท มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากธนาคาร ออมสินส่วนกลาง ธนาคารออมสิน ภาค 7 ธนาคารออมสิน สาขาอำเภอวังทอง ทหารกองทัพภาค 3 ตรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก และตัวแทนกลุ่มชาวบ้านประมาณ 20 คน เข้าร่วมประชุม เพื่อหารือแนวทางการช่วยเหลือเยียวยา ได้สั่งให้ทุกหน่วยเร่งสืบหาข้อเท็จจริง พื้นที่สอบสวนประชาชนที่เดือดร้อนและถูกโกงและสรุปสำนวนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน จากนั้นจะนำเสนอบอร์ดผู้บริหาร ของธนาคารออมสินเพื่อพิจารณาช่วยเหลือต่อไป
ทั้งนี้ จากกรณีเมื่อวันที่ 8 ก.พ.2560 ชาวบ้านอ.วังทองนับร้อยรวมตัวแจ้งจับ-ร้องศูนย์ดำรงธรรมจ.พิษณุโลก ขอผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ล่าตัวนายมงคล หุ่นพิกุลทองอดีต ผจก.แบงก์ออมสิน สาขาอำเภอวังทอง หลอกให้กู้เงินเพิ่มคนละ 1 เท่าตัว ก่อนเชิดเงินหนีกว่า 40 ล้าน นายทองสุข ถิ่นน้ำใส อาศัยอยู่หมู่ที่ 12 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พร้อมเพื่อนบ้านกว่า 20 คน เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกช่วยเหลือ หลังถูกนายมงคล หุ่นพิกุลทอง ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาวังทอง ฉ้อโกงเงินไปหลายสิบล้านบาท
กลุ่มชาวบ้านระบุว่า นายมงคลได้แจ้งให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอวังทองยื่นคำขอกู้ยืมเงินจากธนาคารออมสิน สาขาวังทอง โดยเสนอว่า “ถ้าหากอยากได้รับการอนุมัติจะต้องกู้เผื่อให้นายมงคลด้วย เช่น ถ้ายืมเงินแสนหนึ่ง ก็ให้ทำเรื่องกู้ 2 แสนบาท โดยนายมงคลรับปากว่าจะใช้ในส่วนที่ตนเองกู้ให้” ชาวบ้านต่างก็หลงเชื่อทำเรื่องกู้กันจำนวนมาก ต่เมื่อถึงเวลาชดใช้เงินคืนธนาคาร ส่วนของชาวบ้านก็ได้คืนให้ธนาคารจนหมด แต่ในส่วนของนายมงคล ผู้จัดการธนาคาร กลับไม่ยอมจ่ายชดใช้ตามที่รับปากไว้ เมื่อชาวบ้านไปทวงถามในตอนแรกนายมงคลก็บอกจะชดใช้เอง แต่ต่อมานายมงคลก็ลาออกไปเมื่อเดือนสิงหาคม 59 ที่ผ่านมา แล้วหลบหนีไปทิ้งหนี้สินไว้ให้ชาวบ้านชดใช้ ชาวบ้านได้รวมตัวไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังทองแล้ว ก่อนรวมตัวมาร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรม
จากการสอบสวนของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลกได้ข้อมูลว่า มีชาวบ้านในอ.วังทอง ที่เสียหายจากการกระทำของอดีตผจก.ธ.ออมสิน สาขาอ.วังทอง จำนวน 83 ราย มูลค่าความเสียหาย 10,186,000 บาท
ขณะที่การประชุมวันนี้ นายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหวัดพิษณุโลก ประธานการประชุม ได้ลงลึกรายละเอียด สอบถามผู้จัดการออมสินภาค 7 และตัวแทนของธนาคารออมสินจากสำนักงานใหญ่ ถึงการกระทำของนายมงคล ว่าเป็นการกระทำในช่วงที่ยังคงดำรงตำแหน่งผู้จัดการธนาคารออมสิน ซึ่งนายมงคลได้ยื่นหนังสือลาออกจากธนาคารวันที่ 7 กรกฏาคม 2559 และธนาคารออมสินอนุมัติให้ลาออกในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ขณะที่การกู้เงินของชาวบ้าน เกิดในช่วงขณะที่นรายมงคลยังอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการธนาคาร ชาวบ้านที่เข้าร่วมประชุมยืนยันว่า นายมงคลจะไปพบชาวบ้านกลุ่มต่าง ๆ และเสนอให้กู้เงินเพิ่มเติม นายมงคลจะรับผิดชอบเอง ขณะที่พนักงานธนาคารออมสิน สาขาวังทองที่มาร่วมประชุมด้วยระบุว่า นายมงคล เป็นผู้ดำเนินการเอง พนักงานไม่ได้มีส่วนรู้เห็น ซึ่งรองผวจ.พิษณุโลกได้สรุปชี้มูลให้ตัวแทนธนาคารออมสินที่เข้าร่วมประชุมว่า เป็นการกระทำระหว่างที่นายมงคลเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้ร้องขอให้กลุ่มออมทรัพย์หรือ ชาวบ้านกู้เงินแทนให้เพิ่ม เป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ทำให้ชาวบ้านหลงเชื่อ เป็นการกระทำผิดในระหว่างปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ถ้าเป็นธนาคารออมสิน จะต้องมีมาตรการเยียวยาให้กับชาวบ้านที่เสียหาย ไม่ใช่ให้ชาวบ้าน ยังคงจ่ายค่าดอกเบี้ยในส่วนที่นายมงคลฉ้อโกงไป ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่
นายธัชชัย รองผวจ.พิษณุโลก กล่าวในที่ประชุมว่า สำนักงานใหญ่ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ชัดเจนแล้วว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินในฐานะผู้จัดการ ได้กระทำตามอำนาจหน้าที่ในสมัยที่ดำรงตำแหน่ง มีพฤติการณ์มานาน แต่เมื่อลาออก และหลบหนีไป จึงมีชาวบ้านมาร้องเรียน การสอบเบื้องต้นผู้เสียหาย 83 ราย วงเงิน 10 ล้านบาท ฝากธนาคารออมสินภาค 7 แจ้งไปยังสำนักงานใหญ่ นิ่งเฉยไม่ได้ ถ้าไม่ดำเนินการ จังหวัดต้องมีมาตรฐาน แจ้งไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ผวจ.พิษณุโลก ได้มีหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเพื่อให้ช่วยเหลือสอบสวนถึงทรัพย์สินของนายมงคล ทั้งรถยนต์ บ้าน ที่ดิน รอคำตอบ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งจะส่งให้ธนาคารออมสินว่ามีทรัพย์สินอยู่ที่ไหนบ้าง ถ้าจังหวัดพิษณุโลกทราบ จะรีบดำเนินการอายัดเงินทันที
ขณะที่การดำเนินการของธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่นั้น ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เอกสารการปล่อยสินเชื่อ การปล่อยเงินกู้ พนักงานที่เกี่ยวข้องทุกคน รวมถึงกลุ่มชาวบ้านที่กู้ในนามกลุ่ม และชาวบ้านที่กู้ในนามบุคคล ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน จึงจะสรุปชี้มูลความผิดได้ เมื่อชี้มูลความผิด จะนำเสนอต่อกรรมการผู้จัดการ ที่อาจจะเสนอบอร์ดของธนาคารออมสิน สำหรับมาตรการเยียวยาชาวอ.วังทองที่ได้รับผลกระทบ
สำหรับในทางคดี มีชาวบ้านผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ทั้งพื้นที่สภ. วังทอง แล้วจำนวน 20 ราย เนื่องจากเป็นคคี ที่กระทำความผิดต่อรัฐ ทางพนักงานสอบสวนสภ.วังทอง จึงส่งคดีไปที่สำนักงานปปท. อยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริงที่สำนักงานปปท.
นอกจากนี้ พ.ต.อ.ธรธวัช แจ่มอุดมโชค ผกก.สภ.แก่งโสภา อ.วังทอง เปิดเผยในที่ประชุมเพิ่มเติมว่า หลังจากออกจากตำแหน่งผจก.ออมสินสาขาวังทองแล้ว สภ.แก่งโสภา ได้รับเรื่องร้องทุกข์เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2560 นายทองสุก ถิ่นน้ำใส ประธานกองทุนหมู่บ้านแก่งกุลาเหนือ ได้มาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ว่า ได้นำเงินของชาวบ้าน จำนวน 180,000 บาท มอบให้กับนายมงคล เพื่อจะนำมาให้ธนาคารออมสิน โดยนายมงคล ไปรับเงินที่บ้านของนายทองสุก เรื่องนี้จะเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนสภ.แก่งโสภาดำเนินการ เพื่อเร่งขออนุมัติออกหมายจับ เป็นคดีที่เกิดหลังจากนายมงคล ได้ลาออกจากธนาคารไปแล้ว นายทองสุกก็เพิ่งทราบว่านายมงคลลาออกไปแล้ว จึงมาแจ้งความ เป็นคดีใหม่ที่พนักงานสอบสวนจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน