ร้านค้าร้องขอความเมตตาวัดใหญ่ลดค่าต่อสัญญาศูนย์จำหน่ายสินค้าแห่งใหม่

เวลา 10.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 ที่วัดใหญ่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก ผู้ประกอบการร้านค้าขายสินค้าต่าง ๆ ในวัดใหญ่ จำนวนประมาณ 30 ราย ได้รวมตัวกันเพื่อขอพบเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร เพื่อขอความชัดเจนในสัญญา และความเมตตากับวัดใหญ่ ในการเข้าไปจำหน่ายสินค้าในอาคารศูนย์จำหน่ายสินค้าของวัด ที่ก่อสร้างเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว บริเวณลานจอดรถบริเวณด้านหลังวัด ซึ่งเร็ว ๆ นี้ ทางวัดจะทำการให้ร้านค้าจำหน่ายสินค้าทั้งหมด ย้ายขึ้นไปจำหน่ายสินค้าในอาคารหลังใหม่ แต่พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากต่างกังขาและกังวลในข้อสัญญา โดยเฉพาะการต่อสัญญาหลังจากเข้าไปขายเป็นระยะเวลา 6 ปีแล้ว ต้องจ่ายค่าทำสัญญาเพิ่มอีก 200,000 บาท  ขณะที่แผงลอยอีกจำนวนหนึ่ง ก็ไม่มีเงินไปทำสัญญาเพื่อเข้าไปขายในอาคารใหม่ หลังจากนี้ จึงไม่รู้ชะตากรรม ว่าจะได้ขายต่อหรือไม่

การรวมตัวของพ่อค้าแม่ค้าครั้งนี้ ได้เข้าไปพูดคุยกับ พระมหาธนศักดิ์จินตกวี เลขานุการ เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ทางวัดจะนำข้อเรียกร้ององผู้ประกอบการร้านค้า นำเรียนต่อพระธรรมเสนานุวัตร เจ้าอาวาสฯ และประชุมกับคณะกรรมการวัด และจะให้คำตอบในเวลา 2 วันหลังจากนี้

นางภพพร  หลวงหาญ หนึ่งในตัวแทนร้านค้าวัดใหญ่ เปิดเผยว่า ทางวัดใหญ่ได้สร้างอาคารศูนย์จำหน่ายสินค้าแห่งใหม่ เพื่อจัดระเบียบร้านค้าในวัด และพวกเราก็ให้ความร่วมมือ และก่อนหน้านี้ ร้านค้าร่วม 200 ร้าน ก็เริ่มทยอยจ่ายค่าล็อคกับวัดใหญ่มาเรื่อย ๆ วงเงินทั้งหมด 320,000 บาท และได้ทยอยจ่ายมาเรื่อย ๆ เดือนละ 3,750 บาท รวมถึงค่าประกันความเสียหายอีก 5,000 บาท ขณะนี้ ก็ใกล้ที่จะได้ย้ายขึ้นไปบนอาคารจำหน่ายสินค้าแห่งใหม่แล้ว แต่สิ่งที่พวกเรากังวลคือ ความชัดเจนในการต่อสัญญาใหม่ ซึ่งหลังจากเข้าไปจำหน่ายสินค้าเป็นระยะเวลา 6 ปีแล้ว จะต้องมีการทำสัญญาใหม่อีก เท่าที่ทราบขณะนี้คือ ต้องจ่ายเงินในการทำสัญญาอีก 200,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่เป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วง 6 ปีแรก ที่ขึ้นไปจำหน่ายสินค้า ถ้านำเงินค่าทำสัญญาครั้งแรกจำนวน 320,000 บาท มาหาร ก็จะเสียเงินเดือนละ 4,444 บาท  บวกค่าเช่าอีกเดือนละ 1,000 บาท ค่าไฟเสียต่างหาก และหากหาเงิน 200,000 บาท  มาต่อสัญญาใหม่ไม่ได้ สิทธิในการจำหน่ายสินค้าก็จะหมดไป ในวันนี้พวกเราจึงรวมตัวกันมาร้องขอความเมตตาจากวัด ขอยืดอายุสัญญา ขอการจ่ายในวันข้างหน้าให้ลดลงมากกว่านี้  และอยากให้จัดระเบียบร้านค้าให้หมด เพราะถ้าพวกเราขึ้นไป ก็อยากให้ร้านจำหน่ายล็อตเตอรี่ขึ้นไปด้วย วันนี้ก็ได้เจรจาเบื้องต้นกับพระเลขาฯ ท่านก็ขอเวลา 2 วัน ขอนำเรียนเจ้าอาวาสฯและประชุมกับคณะกรรมการวัดก่อน

ขณะที่นางนิด  นาคยิ้ม วัย 80 ปี แม่ค้าร้านขายเมี่ยงคำติด กับประตูทางออกด้านวัดนางพญา ก็ได้นำเรื่องมาขอความเมตราจากวัดด้วย นางนิด เปิดเผยว่า ตนจำหน่ายเมี่ยงคำข้างประตูวัดมาตั้งแต่ปี 2525 มีพื้นที่ขายประมาณ 2 คูณ 2 เมตร ช่วงทางวัดสร้างอาคารศูนย์จำหน่ายสินค้าใหม่ ๆ ทางวัดก็ให้สิทธิตนในการเขาไปจองล็อคในอาคารใหม่ แต่ตนหาเช้ากินค่ำ ไม่มีเงินจำนวน 320,000 บาท ไปจองล็อค และเร็ว ๆ นี้ ทางวัดก็จะย้ายร้านค้าทั้งหมดขึ้นไปบนอาคารใหม่ ตนก็ยังไม่รู้จะทำอย่างไร จะได้ขายต่อหรือไม่ จึงนำเรื่องมาขอความเมตตาจากวัดพร้อมกับพ่อค้าร้านอื่น ๆ ในวันนี้ด้วย

แสดงความคิดเห็น