เวลา 09.00 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ห้องวังพิกุล โรงแรมอมรินทร์ลากูน อ.เมืองพิษณุโลก เทศบาลนครพิษณุโลก ได้จัดเวทีสาธารณะ เพื่อสรุปผลการจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออก การพัฒนาระบบผลิตน้ำประปาและระบบจ่ายน้ำประปา ที่ได้ทำมาในชุมชนต่าง ๆ จำนวน 23 ครั้ง หลังจากเทศบาลนครพิษณุโลก ได้เสนอทางเลือกในการผลิตน้ำประปาในอนาคต ว่าจะค่อย ๆ พัฒนา หรือ จะกู้เงินมาลงทุนทำระบบใหม่ทั้งหมด
นายบุญทรง แทนธานี นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก เปิดเผยว่า ด้วยเทศบาลนครพิษณุโลก ได้รับการสนับสนุนทางวิชาการจากสำนักสันตวธีและธรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า และมูลนิธิฟรีดิชเนามันน์ ประเทศเยอรมันนี จัดเวมีเสวนาหาทางออก เรื่องการผลิตระบบน้ำประปา และระบบจ่ายน้ำประปา ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากถึง 300 ล้านบาท และถ้าหากมีการดำเนินโครงการ จะมีผลกระทบต่อประชาชนหลายด้าน เช่น การขึ้นน้ำประปา การประสบปัญหาต่าง ๆ ระหว่างการก่อสร้าง เป็นต้น การจัดเสวนาหาทางออก เป็นแนวทางการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นลักษณะการพูดคุย ปรึกษาหารือ ระหว่างประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการ ในที่นี้คือ ผู้ใช้น้ำประปาของเทศบาลนครพิษณุโลก ทั้งผู้ใช้น้ำรายย่อย รายกลาง รายใหญ่และนอกเขตเทศบาล ใน 64 ชุมชนของเทศบาล
โดยมีการเสนอทางออกที่เป็นทางเลือกให้กับประชาชน 4 ทางเลือก ได้แก่ 1. กองประปาไม่ต้องทำอะไร ดำเนินการไปตามเดิม ซึ่งปัญหาที่มีอยู่ก็จะไม่ได้รับการแก้ไข 2. กองประปา ค่อย ๆ ปรับปรุงระบบไป โดยใช้งบประมาณจากรายได้ปีละประมาณ 12 ล้านบาท ซึ่งปัญหาที่มีอยู่ก็จะได้รับการแก้ไขเพียงระดับหนึ่ง 3. กองประปา โดยเทศบาลนครพิษณุโลก กู้เงินดอกเบี้ยต่ำ จากสถาบันการเงิน และดำเนินโครงการนี้ทันที แต่จะเป็นต้องขึ้นน้ำประปา เพื่อให้มีรายได้เพียงพอสำหรับการส่งคืน และการพัฒนาระบบในอนาคตอย่างต่อเนื่อง และ 4.การถ่ายโอนกิจการประปาของเทศบาลไปให้การประปาส่วนภูมิภาคเป็นผู้ให้บริการ แต่ค่าน้ำประปาจะสูงกว่าของเทศบาล
นายบุญทรง เผยต่อว่า การจัดประชาเสวนาในครั้งนี้ เป็นการประชุมครั้งสุดท้าย โดยเชิญตัวแทนแต่ละกลุ่มที่ผ่านการจัดทำประชาเสวนาจำนวน 23 ครั้ง มารับฟังการสรุปผลการลงมติ โดยเสียงส่วนใหญ่กว่า 90 % ต้องการให้ดำเนินโครงการด้วยการกู้เงินจากสถาบันการเงิน และยินดีที่นะรับภาระจากการขึ้นค่าน้ำประปา จากหน่วยละ 4.5 บาท เป็นหน่วยละ 7 บาท ขั้นตอนหลังจากนี้ เทศบาลนครพิษณุโลก จะเสนอขออนุมัติกู้เงินเพื่อจัดทำโครงการต่อสภาเทศบาลนครพิษณุโลก ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และกระทรวงมหาดไทยตามลำดับ หากผ่านการอนุมัติทุกขั้นตอนแล้ว จึงสามารถดำเนินการดังกล่าวต่อไปได้ทันที น่าเสร็จในระยะเวลา 2 ปี
ซึ่งที่ผ่านมา เทศบาลนครพิษณุโลก ได้เจรจาเตรียมแผนการกู้เงินจากธนาคารกรุงไทยวงเงิน 300 ล้านบาทแล้ว และเงินกองทุนส่งเสริมกิจการส่วนท้องถิ่น อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 4 % หากสามารถเจรจาอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 4 % น่าจะสามารถคืนเงินต้นและดอกเบี้ยได้ในระยะเวลา 10 ปี
……………………………………………………………………………………………………………….