จับโฮมสเตย์ทางขึ้นภูลมโล สร้างรุกพื้นที่อช.ภูหินร่องกล้า

 เวลา 11.00 น.วันที่ 26  มกราคม  2560 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11  สนธิกำลังเจ้าหน้าสายตรวจสำนัก 11 กรมอุทยาน, ตำรวจภูธรนครไทย, สืบสวนจังหวัดและตร.ภาค.6 จนท.ฝ่ายปกครอง ร่วม 50 นาย ณ.ที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า หมู่ 10 ตำบลเนินเพิ่ม  อำเภอนครไทย  จังหวัดพิษณุโลก เดินทางไปยัง รีสอร์ทฮ๋องก๋า ฮิลล์ โฮมสเตย์ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่อง เลยจุดทางขึ้นจากบ้านร่องกล้าไปยังภูลมโลประมาณ 1 กิโลเมตร ที่มีนายผ้า แซ่หว้า อายุ 38 ปี เป็นผู้ครอบครอง 

เจ้าหน้าที่ร่วมกันตรวจสอบรังวัดแนวเขตเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2560 ผลปรากฏว่าแปลงที่ดินฮ่องก๋า ฮิลล์ โฮมเสตย์ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จำนวน 8 – 0 – 78 ไร่ พบสิ่งปลูกสร้าง 10 หลังก่อสร้างลักษณะเป็นรีสอร์ทที่พัก คือ ที่พักให้เช่า 4-5 หลัง ห้องน้ำ 2 หลัง ที่พักคนงาน 1 หลัง และร้านอาหาร ซึ่งไม่ใช่บ้านลักษณะโฮมสเตย์ ตั้งอยู่บนยอดเนินเขาสูงระดับความสูงหนึ่งพันเมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทางขึ้นไปยอด”ภูลมโล”แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ถือว่าเป็นการกระทบกระเทือนต่อการรักษาป่า และ พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ไม่เป็นพื้นที่อยู่ในข่ายได้รับผ่อนผันเพื่อพิสูจน์สิทธิ์ในพื้นที่ครอบครองตามมติคณะรัฐมนตรี  เมื่อวันที่  30  มิถุนายน 2541 

แต่นายผ้า แซ่หว่า อ้างว่า อยู่ในเขตผ่อนผัน ทำกินมานานร่วม 30 ปีแล้ว เป็นที่ดินทำกินของพ่อ และสร้างบ้านพักอาศัยที่นี่ เดิมทำไร่กระหล่ำปลี แต่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวชมดอกซากุระบ้าน จึงค่อย ๆ เริ่มปรับมาเป็นโฮมสเตย์ และ ที่สร้างบ้านพัก ก็อยู่ในแนวเขตที่มีหลักปูนของอุทยานตั้งอยู่ และแนวเขตที่อุทยานบอกว่าอยู่ในเขตอุทยาน ก็เพิ่งมาสำรวจและปักใหม่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ซึ่งการเจรจาในพื้นที่ มีปัญหา ปากเสียงถกเถียงกับเจ้าหน้าที่นานนับชั่วโมง ต่อมาเจ้าหน้าที่และนายผ้า ไปดูหลักเขตอุทยานฯ แต่นายผ้ากลับไม่พอใจ อ้างว่าเจ้าหน้าที่อุทยานฯเพิ่งนำเสาหลักเขตอุทยานฯมาปักใหม่

กระทั่งเจ้าหน้าที่เห็นพร้อมว่าการกระทำดังกล่าวของนายผ่า ผิดกฎหมาย จึงเชิญตัวไปยังที่ทำการอุทยานฯภูหินร่องกล้า เพื่อชี้แจงถึงการกระทำผิด  ตามพระราชบัญญัติป่าไม้  พุทธศักราช  2484  มาตรา 54 ฐาน “ก่นสร้าง แผ้วถาง  หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” และมาตรา 55  อีกทั้งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มาตรา 61 ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ ห้ามมิให้ผู้ใด(1) ฐาน  “ ยึดถือหรือครอบครองที่ดิน  ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ ”  (2) ฐาน  “ทำด้วยประการใดๆ  ให้เป็นอันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพแก่ดิน  (13) ฐาน “ เข้าไปดำเนินกิจการเพื่อหาผลประโยชน์ภายในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจาหกพนักงานเจ้าหน้าที่ “ และมาตรา 22 ในกรณีที่มีการ พระราชบัญญัตินี้ เป็นเหตุให้มีสิ่งปลูกสร้างขึ้นใหม่หรือสิ่งอื่นใด ในอุทยานแห่งชาติผิดไปจากสภาพเดิม ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้ผู้กระทำผิดทำลายหรือรื้อถอนสิ่งนั้นๆ ออกไปให้พ้นอุทยานแห่งชาติ

ล่าสุดคณะเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาและเวลา 16.00 น.ของวันเดียวกัน ได้นำตัวนายผ้า แซ่หว้า ผู้ถูกจับกุม ไปดำเนินคดีนำส่งพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรนครไทย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายและส่งฟ้องศาลดำเนินการสั่งรื้อถอนต่อไป

นายสุวรรณ ภาณุนำภา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีโฮมสเตย์แห่งนี้รายเดียว ที่สร้างรุกเข้ามาในแนวเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า บริเวณบนภูลมโลไม่มี สำหรับการทำโฮมสเตย์ในหมู่บ้านร่องกล้านั้นไม่มีปัญหา เพราะอยู่นอกเขตอุทยาน สำหรับหลักเขตที่เจ้าของรีสอร์ทอ้างว่า เป็นแนวเขตของอุทยานนั้น เป็นแนวเขตสำหรับการสำรวจแก้ไขในปี 2541 ซึ่งจากการสำรวจรังวัดของจนท. พบว่า โฮมสเตย์แห่งนี้ อยู่ในเขตอุทยานฯ และการทำรีสอร์ท ก็ผิดเงื่อนไขของการทำพื้นที่ทางการเกษตร

นายกมล  นวลใย ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 กล่าวว่า นายผ่า ผู้ครอบครองก็มีสิทธิ์กล่าวอ้างว่า แต่ข้อมูลพิกัดแผนที่ทั้งหมดทั้งในเขตอุทยานฯภูหินร่องกล้า เจ้าหน้าที่เป็นผู้จัดทำ  ขอยืนยันว่า ที่ดินนายผ้า อยู่ในเขตอุทยานฯทั้งหมด และไม่ใช่ในเขตผ่อนผันให้ราษฎรทำกิน กรณีอ้างว่าอยู่มานาน ก็ผ่อนผันให้ทำกิน ไม่ได้ให้สร้างถาวรวัตถุ แต่สิ่งที่พบวันนี้ กลับเป็นรีสอร์ท เปิดให้เช่าเป็นหลังๆและร้านอาหาร และเพิ่งสร้างเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ้านใหม่ร่องกล้า หมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ม. 10 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ใจกลางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ในอดีต หลังจากยุติการต่อสู่ทางความคิดระหว่างจนท.รัฐและพรรคคอมมิวนิวส์ ได้กันแนวเขตให้ราษฏรชาวไทยภูเขาเผ่าม้งทำกิน มีเนื้อที่ประมาณ 6,000 ไร่ โดยส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพเกษตร โดยเฉพาะกระหล่ำปลี แต่ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หลังจากเริ่มปลูกต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย ที่ภูลมโล ซึ่งมีเส้นทางขึ้นที่บ้านใหม่ร่องกล้า ทำให้บ้านใหม่ร่องกล้า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมดอกซากุระเมืองไทยวันละหลายพันคน และช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีการทำโฮมสเตย์ในตัวหมู่บ้าน และ เริ่มมีการสร้างที่พักโฮมเสตย์ตามพื้นที่รอบนอกอีกจำนวนหลายแห่งที่เป็นพื้นที่การเกษตรเดิม ซึ่งหลายฝ่ายกำลังเฝ้าระวังและจับตามองเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบภูทับเบิก

แสดงความคิดเห็น