จับรถบรรทุกดินเกินกว่ากม.กำหนด ถ.เลี่ยงเมืองพิษณุโลก ต.หัวรอ

15875312_10202538012608648_1811583441864770597_oวันที่ 7 มกราคม 2560 ตำรวจเมืองพิษณุโลก ตำรวจทางหลวงที่ 3 และเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง จับกุมรถพ่วงบรรทุกดิน 2 คัน ในพื้นที่ตำบลหัวรอ ที่กำลังจะนำดินไปส่ง ในข้อหาบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด หลังมีชาวบ้านร้องเรียน ส่วนถนนหมายเลข 12 กำลังเดินหน้าซ่อมแซม คาดเสร็จปลายเดือนมกราคานี้15844608_10202538013248664_3882048047141315654_o
ร้อยตำรวจเอก ไพโรจน์ คล้ายสุวรรณ์ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก รุดไปตรวจสอบรถยนต์บรรทุกดินพ่วง 2 คัน หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่ 3 และเจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวง นำโดย นาย สมชาย มาอยู่ นายช่างเครื่องกลชำนาญงาน กรมทางหลวง ที่ได้ตั้งจุดตรวจชั่วคราว บริเวณถนนสายเลี่ยงเมือง หลักกิโลเมตรที่ 21 ตำบลหัวรอ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่า15875499_10202538013368667_553133189113053350_o มีรถบรรทุกดินบรรทุกน้ำหนักมาก ขึ้นมาขับบนถนนทางหลวง จากตำบลหัวรอ กระจายออกไปยังพื้นที่ต่างๆ เป็นประจำ โดยสามารถจับกุมตัว นาย ฉลอง ด้วงนุช อายุ 42 ปี และ นาย ประสิทธิ์ พวงลัย อายุ 42 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ จังหวัดพิษณุโลกทั้งคู่ พร้อมรถพ่วงบรรทุกดินมาเต็มคันรถ ทะเบียน 82-4947 พิษณุโลก พร้อมพ่วง และ 82-3273 พิษณุโลก พร้อมพ่วง ตั้งข้อหาว่าขับขี่ยานพาหนะบรรทุกน้ำหนักเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด 15936606_10202538012688650_9213181477755622720_o

15844439_10202538012848654_186437370819911597_oนาย ณัฐพล จูสวย นายช่างโยธาชำนาญงาน กรมทางหลวง กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการจับกุมรถบรรทุกที่บรรทุกน้ำหนักอัตราเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด โดยกรณีนี้เป็นรถบรรทุกขนาด 6 เพลา สามารถบรรทุกได้น้ำหนักตามกฎหมายคือ 50.5 ตัน แต่เมื่อมีการชั่งโดยเครื่องสปอตเช็ค หรือตาชั่งเคลื่อนที่พบว่า น้ำหนักรถบรรทุกนี้เกินไปจริง ๆ โดยคันแรกเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไป 17 ตัน ส่วนคันที่ 2 เกินไป 16 ตัน ซึ่งถือว่ามีโทษตาม พรบ.ทางหลวง มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท จำคุก 1 ปี ซึ่งทั้ง 2 ให้การรับสารภาพและขอประกันตัวไป15874838_10202538014448694_7533424616503061818_o

ในขณะที่วันนี้บนถนนทางหลวงหมายเลข 12 อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก – อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งมือเพื่อทำการซ่อมแซมพื้นผิวการจราจรอย่างเต็มที่ โดยทำการรื้อผิวการจราจรเก่าที่พังยุบออก ส่วนใหญ่จะเป็นเลนซ์ซ้ายสุดของผิวถนนที่พัง และเป็นเลนซ์ที่รถบรรทุกขนาดใหญ่ใช้ขับ เหลือการจราจรเลนซ์ด้านในเท่านั้นที่ยังคงสภาพดีอยู่ ซึ่งถนนสายนี้เป็นถนนที่เกิดขึ้นตามยุทธ์ศาสตร์ระเบียงเศรษฐกิจของประเทศไทย จากตะวันออกสู่ตะวันตก และเพิ่งเปิดใช้งานมาได้ไม่นานนัก แต่พื้นผิวก็พังเสียหายไปบางส่วน ทางราชการจึงจำเป็นต้องทำการซ่อมแซม และเมื่อช่วงเทศกาลปีใหม่ ก็มีการประกาศให้พึงระมัดระวังการใช้ถนนเส้นนี้ เกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ และคาดว่าจะซ่อมแซมเสร็จก็ประมาณปลายเดือนมกราคม 2560 นี้15936853_10202538015128711_7789347983371295508_o

……………………………………………….

ขอบคุณภาพข่าวจากคุณสุรเชษฐ์  มากร

แสดงความคิดเห็น