เวลา 09.00 น. วันที่ 6 มกราคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นางสาวช่อเพชร นุ่มเมืองฝาง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/33 ม.4 ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยบุตรสาว อายุ 14 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.พิษณุโลก ได้มาชูป้ายร้องขอความเป็นธรรมกับ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กรณีที่ถูกเลิกจ้างจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เหตุผลเพียงเพราะไปร้องเรียนกับหน่วยงานรัฐ ว่าไม่ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมายกำหนด
นางช่อเพชรฯ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนทำงานเป็นพนักงานผู้ช่วยการพยาบาล ของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.เมืองพิษณุโลกมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 ต่อมาช่วงเดือน สิงหาคม 2558 ทางบริษัทฯ ได้แจ้งให้พนักงานทราบถึงการขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงจำเป็นต้องลดอัตราเงินเดือนเหลือเพียง 6,567 บาท ต่อเดือนเท่านั้น จากเดิมที่ตนเคยได้รับเงินเดือน 9,000 บาท แต่เวลาหักเงินส่งประกันสังคม หักในฐานเงินเดือนขั้นต่ำคือ 9,000 บาท ตามที่กฎหมายกำหนด หลังจากนั้นตนก็ทำงานมาเรื่อย ๆ แต่ตนมองว่าไม่ได้รับความเป็นจึงเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม ในวันที่ 28 พ.ย.59 ตนจึงมาร้องเรียนที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจ.พิษณุโลก และในเวลาต่อมาทาง หน่วยงานต้นสังกัดทราบเรื่องที่ตนไปร้องเรียน จึงโทรแจ้งส่วนตัวว่าให้ออกจากงาน ไม่ต้องไปทำงานอีกแล้ว ต่อมาวันที่ 29 พ.ย. 59 ตนได้รับการติดต่อจากจนท.ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ว่า ให้กลับไปทำงานอีกครั้ง วันรุ่งขึ้น 30 พย. 59 ตนก็ไปทำงานตามปกติ จนถึงวันที่ 4 มกราคม 2560 แต่กลับถูกบิดพลิ้ว ไม่ได้รับเงินเดือนเลยเป็นเวลา 2 เดือน คือเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 2559
นางช่อเพชรฯ เล่าต่ออีกว่า ตอนนี้ตนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะมีรายได้เพียงแค่ทางเดียว กลับต้องเลี้ยงดูคนในครอบครัวถึง 4 ชีวิต โดยเฉพาะบุตรสาวของตอนที่เรียนอยู่ชั้น ม.3 ขณะนี้ลำบากมาก ไม่มีแม้แต่เงินให้ลูกไปโรงเรียน พ่อกับแม่อีก 2 ชีวิตที่แก่มากแล้วทำอะไรไม่ได้นอกจาก หาเก็บขยะขาย เพื่อหาเงินให้หลานสาวไปโรงเรียน จบลูกสาวของตนต้องเอ่ยทั้งน้ำตานองหน้าว่า จะขอลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาช่วยครอบครัวทำงาน ตนรู้สึกสงสารลูกสาว เพราะเพียงไม่กี่เดือนก็จะจบ ม.3 แล้ว วันนี้ตนจึงมาขอร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ให้ช่วยให้ความเป็นธรรมต่อตนและครอบครัวตนด้วย
ต่อมาจนท.ศูนย์ดำรงธรรมพิษณุโลกได้มาตรวจสอบข้อร้องเรียน และติดต่อนายยุทธการ โอวาสิทธิ์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดพิษณุโลกมารับเรื่องไปดำเนินการต่อ ซึ่งได้พานางสาวช่อเพชร ไปรับเรื่องรายละเอียดและเจรจากับบริษัทเอกชนผู้เป็นนายจ้าง ซึ่งเรื่องที่ได้ร้องขอความเป็นธรรม เกี่ยวกับการจ้างงาน ก็ให้ดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการของกฏหมายต่อไปล่าสุดทาง นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก ได้รับมอบหมายจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ให้หาแนวทางในการช่วยเหลือบุตรสาวของนางสาวช่อทิพย์ฯ เป็นการเบื้องต้น คือการมอบเงินสงเคราะห์ครอบครัว 2,000 บาท และจะนำเรื่องเสนอที่ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนคุ้มครองเด็กจังหวัดพิษณุโลก พิจารณาช่วยเหลือเงินสงเคราะห์จากกองทุนคุ้มครองเด็ก เพื่อช่วยเหลือด้านทุนการศึกษา เป็นเงิน 3,000 บาท ทุนประกอบอาชีพของผู้ปกครอง 5,000 บาท และเครื่องอุปโภคบริโภค 1,500 บาท
…………………………………………………