เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 28 ธ.ค. 2559 ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก พ.ต.ท.สัญญา หาญวณิชานนท์ สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพิษณุโลก และนายแพทย์สมชาย พรหมมณี รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนางสุนทรี เนียมกลาง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 14 ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก
ขอให้ช่วยเหลือลูกสาว คือ น.ส.รสสุคนธ์ เนียมกลาง อายุ 32 ปี ซึ่งเดินทางไปหาเพื่อนและทำงานที่ประเทศโอมาน และถูกจับติดคุกเนื่องจากพบยารักษาโรคประจำตัวจำนวนมาก และยาบางตัวมีส่วนผสมของสารตั้งต้นเสพติด หลังจากพยายามช่วยเหลือลูกแต่ติดปัญหาขั้นตอนในเรื่องประวัติการรักษาและใบรับรองเกี่ยวกับยาเฉพาะบางตัว ทำให้รู้สึกเป็นห่วงเกรงว่าลูกจะได้รับอันตราย หลังทราบว่าไม่ได้กินยามานานกว่า 2 เดือนแล้ว ขอให้เจ้าหน้าที่ประสานการช่วยเหลือนำตัวส่งกลับประเทศไทยโดยด่วนด้วย
ด้าน นางสุนทรี เนียมกลาง มารดา กล่าวว่า เมื่อวานตนเพิ่งทราบว่าลูกพยายามขอความช่วยเหลือโดยแอบโพสต์ข้อความลงเฟชบุ๊กส่วนตัว ระบุขอความช่วยเหลือฉบับที่ 5 ลงวันที่ 24 ธ.ค. 59 ข้อความในจดหมายแจ้งว่าผู้เขียน คือ น.ส.รสสุคนธ์ เนียมกลาง อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 14 ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ที่ได้เดินทางไปประเทศโอมานเพื่อมาหาเพื่อน ขึ้นเครื่องตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 59 ที่ผ่านมา กระเป๋าเดินมียารักษาโรคซึ่งสนามบินสุวรรณภูมิตรวจสอบสามารถนำยาออกนอกประเทศได้ เพราะเป็นยารักษาโรคประจำตัว และจ่ายยาโดยโรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก เมื่อลงเครื่องปรากฏว่ากระเป๋าเดินทางไม่ผ่านการตรวจสอบเพราะพบยาบางตัวเป็นยาต้องห้ามของประเทศโอมาน จึงถูกเจ้าหน้าที่ของโอมานจับกุม และถูกคุมขังตั้งแต่ลงเครื่องเป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว
สำหรับยาที่สแกนไม่ผ่าน คือ ยากันชัก ยาแก้ปวดไมเกรน ยาแก้คลื่นไส้ ยาคลายเครียด ยานอนหลับ ยาปรับความดันเลือด ก่อนเดินทางไปตรวจรักษาแพทย์โรคไมเกรน โรคซึมเศร้า ไฮเปอร์เวเนเตอเรชั่น และสั่งจ่ายยามาให้กิน 4 เดือน นำติดตัวไปพียงครึ่งเดียวที่เหลือไว้ที่บ้าน หลังจากทราบเรื่องก็ได้พยายามหาทางช่วยเหลือ ส่งเอกสารการรักษาจากโรงพยาบาลส่งให้ทางสถานทูตไทยที่ประเทศโอมาน แต่ก็ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ ระหว่างถูกควบคุมตัวตลอด 2 เดือน ที่สำคัญไม่ได้กินยาเพื่อรักษาโรคประจำตัวเลย ทำให้อาการเจ็บป่วยเริ่มกำเริบ อีกทั้งยังไม่สามารถสื่อสารได้เพราะพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง ทำให้ได้รับความลำบากเดือดร้อนมาก จึงต้องการขอความช่วยเหลือด่วน โดยหนังสือที่ลูกโพสต์และตัวยาที่ลูกนำติดตัวไปไม่หมด ก็ได้นำมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วย
ทั้งนี้หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ยา 1 ชนิดเป็นยาต้องสงสัย เพราะเป็นยาเฉพาะที่แพทย์ต้องสั่งจ่าย เนื่องจากมีส่วนผสมของยาเสพติด อาจเป็นสาเหตุของการถูกควบคุมตัวไว้ อย่างไรก็ตาม ทาง พมจ.พิษณุโลก จะได้ประสานไปยังแพทย์ที่ทำการรักษาเพื่อรับรองประวัติการรักษาอาการของผู้ป่วย พร้อมรับการจ่ายยาแต่ละชนิด หลังจากมีการประสานไปยังสถานทูตไทยในประเทศโอมาน ให้เข้าไปตรวจสอบช่วยเหลือ เพื่อขอให้มีการได้รับยาในการรักษาโรคโดยเร็ว ก่อนอาการป่วยกำเริบจนเป็นอันตราย จากนั้นจะเร่งส่งเอกสารเพื่อทำการช่วยเหลือให้พ้นจากคุกโอมานส่งตัวกลับประเทศไทยให้เร็วที่สุด.
……………………………………………………………………………………………………