”มนัส เมืองนาค” เกษตรพอเพียง ต.บ่อภาค อ.ชาติตระการ ปลูกทุกอย่างที่ขายได้

img_9566ที่ไร่ลุงแรมโบ้ หรือคุณลุงมนัส เมืองนาค อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153 บ้านเทอดชาติ ม.10 ต.บ่อภาค อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก มีการประยุกต์ทำการเกษตรพอเพียงแบบผสมผสาน ปลูกพืชทุกอย่างที่ขายได้ บนเนื้อที่ 15 มานานกว่า 20 ปี จนปัจจุบันกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าศึกษาวิถีชีวิตแบบพอเพียง ตามรอยเท้าพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ที่สอนให้อยู่อย่างพอเพียง ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงและจะพบกับความสุขที่แท้จริงimg_9546

img_9537ลุงแรมโบ้ หรือคุณลุงมนัส เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2532 ที่ได้เกิดข้อพิพาทชายแดนไทย-ลาวขึ้น ที่บ้านร่มเกล้า รัฐบาลจึงได้ให้ราษฏรเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ โดยเป็นราษฏรอาสา ได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินให้ครอบครัวละ 15 ไร่ ตนเองซึ่งเป็นราษฏรอาสาจึงได้ฝึกเรียนรู้การใช้ชีวิตแบบพ่อเพียงตามรอยพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 โดยเฉพาะเรื่องของเกษตรพอเพียง น้อมนำปรัชญาพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน ที่ให้ใช้ชีวิตแบบพอเพียง ปลูกทุกอย่างที่กินได้ ตนจึงได้เริ่มต้นตั้งแต่นั้นมา ผ่านมา 27 ปี พื้นที่ 15 ไร่ที่ได้รับการจัดสรรมา ก็เต็มไปด้วยพืชผัก ผลไม้ หลากหลายประเภท อาทิ ปาล์มน้ำมัน มะนาว มะกรูด มะละกอ มะม่วงหิมพานต์ อโวคาโด กาแฟพันธุ์อาราบิก้า อินทผาลัม และที่ลืมไม่ได้ คือเสาวรส หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่ากะทกรก ที่ปลูกไว้บนเนื้อที่ 1 ไร่เศษ ที่ขณะนี้กำลังออกผลผลิตสร้างรายได้ต่อปี ไม่ต่ำกว่า 3-5 หมื่นบาทimg_9553

img_9542

ลุงแรมโบ้ เล่าต่ออีกว่า ต้นเสาวรส หรือต้นกะทกรกเป็นไม้เถาเลื้อย ผลเป็นรูปกลม ผลอ่อนสีเขียว เมื่อสุกมีหลายสีแล้วแต่พันธุ์ ผลสุกของเสาวรสนำมาทำน้ำผลไม้และไวน์ หรือเติมลงในน้ำผลไม้ชนิดอื่นเพื่อเพิ่มกลิ่น นอกจากนี้ผลเสาวรสสุกมี บีตา-แคโรทีน โพแทสเซียมและใยอาหารสูง น้ำเสาวรสมีวิตามินซีมากและเหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงผลสีเหลืองใช้ในอุตสาหกรรมน้ำผลไม้ ส่วนผลสีม่วงนิยมบริโภคสด ซึ่งในสวนเกษตรของตนปลูกเสารสไว้ให้เป็นพืชไม้เลื้อยที่เอื้อประโยชน์และให้ร่มเงา ต่อพืชชนิดอื่นๆ ต้นทุนเพียงแค่ทำค้างให้ต้นเสารศเลื้อย เพียงหลักพันบาทต่อไร่ดูแลรักษาไม่ยาก อาศัยเพียงน้ำฝนตามฤดูกาลเท่านั้น ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว คือ ช่วงเดือนกันยายน เป็นต้นไป ก็จะมีโรงงานมารับซื้อผลเสาวรสสุกถึงที่ ในราคาคละ กิโลกรัมละ 14 บาท และสำหรับผลโตเกรด A ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 20 ทีเดียว นับได้ว่าเป็นรายได้หลักอีก 1 ทางที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก หากรวมตัวเลขกลมๆ ของการขายพืชผักผลไม้ ชนิดอื่นๆ ในสวนเกษตรพอเพียงของตนแล้วในแต่ละปี ทำเงินให้หลักแสนบาท ตนน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงขอพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ให้ใช้ชีวิตแบบพอเพียง พออยู่พอกิน เท่านี้ก็มีความสุขมากมายimg_9558

img_9559

จึงอยากจะทำความดีตอบแทนพระองค์ท่าน ด้วยการเปิดสวนเกษตรพอเพียงแห่งนี้ ให้นักท่องเที่ยว หรือผู้ที่สนใจจะมาศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิต เพื่อเป็นการปลูกฝังและสานต่อถึงความพอเพียง เพื่อเจริญรอยตามพระองค์ท่าน หากท่านใดที่สนใจจะเข้าศึกษาเรียนรู้แหล่งเกษตรพอเพียงของคุณลุงแรมโบ้ ผู้ชายตัวเล็กแต่สามารถทำอะไรที่ยิ่งใหญ่เพียงลำพังด้วยตนเอง สามารถติดต่อได้ที่ คุณยักษ์ เจ้าหน้าที่โครงการพระราชดำริ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-0243641img_9573

แสดงความคิดเห็น