เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 พ.ย.2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงสีเกาะแก้วเจริญธัญญา 2 ม.7 ถ.วังทอง – สากเหล็ก ต.หนองพระ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก นายศรีโรจน์ นิมมานพัชรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานเปิดงานตลาดนัดข้าวเปลือก ตามโครงการจัดตลาดนัดข้าวเปลือก ปีการผลิต 2559/60 ครั้งที่ 1 โดยมีนายอารีย์ เดวี พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานภาคเอกชนให้การต้อนรับ ทั้งนี้ด้วยกรมการค้าภายในและกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับจังหวัดพิษณุโลก ได้กำหนดจัดงานตลาดนัดข้าวเปลือกเพื่อให้เกิดกลไกการแข่งขันรับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกของเกษตรกร ให้มีอำนาจในการต่อรองมากขึ้น
รวมทั้งได้รับความเป็นธรรมทางด้านราคา การชั่งน้ำหนัก และการตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตร ทำให้เกษตรกรมีแหล่งกลางในการซื้อขายข้าวเปลือกที่ให้ความเป็นธรรมทางด้านราคา การชั่งน้ำหนักและการตรวจสอบคุณภาพข้าวเปลือก โดยมีการจัดกิจกรรมซื้อขายข้าวเปลือกจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ช่วงเวลา 09.00 – 18.00 น. ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 2 ครั้ง ดังนี้ คือ ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 15 – 17 พ.ย. ณ โรงสีเกาะแก้วเจริญธัญญา 2 ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 22 – 24 พ.ย. ณ จุดบริการสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด (สาขาที่ 1) ม.4 ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม จึงขอเชิญชวนเกษตรกรนำข้าวเปลือกมาจำหน่ายในงานตลาดนัดข้าวเปลือกดังกล่าว
นายเฉลียว เกาะแก้ว เจ้าของโรงสีเกาะแก้วเจริญธัญญา 2 กล่าวว่า บรรยากาศวันนี้มีพี่น้องเกษตรกรชาวนาขนข้าวเปลือกใส่รถบรรทุกและรถยนต์กระบะ มาเข้าคิวขายข้าวให้กับโรงสีกันอย่างคึกคักเป็นอย่างมาก ซึ่งทางโรงสีได้เข้าร่วมรับซื้อข้าวเปลือกตามนโยบายรัฐบาลมาเป็นเวลาถึง 4 ปีแล้ว พร้อมทั้งให้ความเป็นธรรมในเรื่องของราคา การชั่งน้ำหนัก และการตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตรที่ได้มาตรฐาน ราคายุติธรรม ไม่ตัดสิ่งเจือปนในข้าวของเกษตรกร ซึ่งในช่วงนี้ข้าวเปลือกมีผลผลิตออกสู่ตลาดมาก แต่ราคาข้าวเปลือกก็ตกต่ำอันเนื่องมาจากหลายสาเหตุ
เช่น ความชื้นของข้าวเป็นต้น ทางโรงสีจึงจัดกิจกรรมการตรวจสอบเครื่องชั่งสาธิต วิธีวัดความชื้นข้าวเปลือกที่ถูกต้อง โดยสำนักงานสาขาชั่งตวงวัด เขต 1 – 4 พิษณุโลก รวมทั้งให้เกษตรกรชาวนาได้เรียนรู้ระบบการซื้อขายแบบตลาดกลาง เป็นฐานในการพัฒนาระบบตลาด และเป็นแรงกระตุ้นให้เกษตรกรหันมาสนใจพัฒนาปรับปรุงคุณภาพข้าวเปลือกอย่างจริงจัง ให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด ซึ่งวันนี้ทางโรงสีจะรับซื้อข้าวเปลือกตามความชื้น 15% เป็นข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคา 8,000 บาทต่อตัน ส่วนความชื้น 20-30% ราคา 6,200 – 7,400 บาทต่อตัน คาดว่าจะมีเกษตรกรชาวนานำข้าวเปลือกมาขายที่โรงสีวันละ 1,000 ตันต่อวัน และจะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรไปได้สักระยะหนึ่ง
นางบุญเตือน มีชัยโย อายุ 51 ปี เกษตรกรชาวนา ต.วัดพริก อ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ตนเองลงทุนทำนาถึง 40 ไร่ และวันนี้ได้ขนข้าวเปลือกหอมมะลิ จำนวน 10 ตัน มาขายให้กับทางโรงสีโดยเจ้าหน้าที่ทำการวัดความชื้นได้ 25% คิดเป็นเงินจำนวนกว่า 7,000 บาทต่อตัน ถือว่าราคายอมรับได้ เพราะที่ผ่านมาเคยนำไปขายแล้วถูกกดราคาเหลือแค่ประมาณ 6,000 บาทต่อตัน ยังพอมีเงินเหลือไปใช้จ่ายคืนหนี้สินที่กู้ยืมมาได้บ้าง แต่ก็มีเกษตรกรชาวนาบางรายที่นำข้าวเปลือกมาขายแล้วได้ราคายังไม่ตรงตามที่ต้องการ ทั้งนี้ก็เพราะว่าข้าวมีความชื้นอยู่มาก แต่ก็ต้องตัดสินใจนำข้าวเปลือกมาขายให้มีรายได้นำมาจุนเจือเลี้ยงดูคนในครอบครัวไปก่อน.
