เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 พ.ย. 2559 ที่บริเวณถนนหน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน “ตลาดนัดจำหน่ายข้าวสารจากเกษตรกรสู่ผู้บริโภคโดยตรง” โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตข้าว และพี่น้องประชาชนชาวพิษณุโลกเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาจากสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกในฤดูกาลผลิตปี 2559/60 มีราคาตกต่ำทำให้เกษตรกรผู้ผลิตข้าวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรและเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรในพื้นที่ รัฐบาลได้กำหนดนโยบายต่างๆ ออกมาช่วยเหลือเกษตรกรโดยการชะลอไม่ให้ข้าวออกสู่ตลาดเร็วเกินไป การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อไปดำเนินการในโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยรัฐบาลคิดแผนในระยะยาวทุกๆ ด้าน ซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาราคาผลผลิตข้าวอย่างยั่งยืน อาทิ การลดต้นทุนการผลิต การช่วยเหลือเกษตรกรให้มีช่องทางการขายผลผลิตโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง จังหวัดพิษณุโลกจึงได้จัดสถานที่ให้เกษตรกรมีพื้นที่จำหน่ายผลผลิตข้าวให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะจัดเป็นระยะเวลารวม 2 เดือน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 15.00 น. ของทุกวัน โดยภายในงานมีการจัดเต็นท์ร้านค้าจำหน่ายข้าวเปลือก-ข้าวสาร จำนวนไม่ต่ำกว่า 30 ร้านค้า บรรยากาศวันนี้เป็นไปอย่างคึกคักมีข้าราชการ ประชาชน ให้ความสนใจมาหาเลือกซื้อข้าวสารไปหุงรับประทานในครอบครัวจำนวนมาก มีทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้อง ข้าวเปลือก ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ กก.ละ 28 – กก.ละ 40 บาท ซึ่งในอนาคตทางจังหวัดพิษณุโลกจะกำหนดราคากลางให้ทุกร้านค้าจำหน่ายในราคาเดียวกันตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถซื้อข้าวสารในราคายุติธรรมและเป็นการลดค่าครองชีพควบคู่กันไปด้วย
ขณะที่ นางปัทมา เอี่ยมจำรัส อายุ 62 ปี เกษตรกรผู้ผลิตข้าว พื้นที่ ม.3 ต.หนองพระ อ.วังทอง กล่าวว่า วันนี้ตนเองรู้สึกดีใจมากที่ทางจังหวัดพิษณุโลกได้เปิดตลาดนัดจำหน่ายข้าวสารสู่ผู้บริโภคโดยตรง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง เพราะที่ผ่านมาตนทำนาก็ประสบปัญหาขาดทุนและถูกกดราคาข้าวจากโรงสี จึงหันมาปลูกเอง สีข้าวเอง แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร จนรัฐบาลยืนมือมาให้ความช่วยเหลือครั้งนี้ ซึ่งปีที่แล้วขายข้าวหอมมะลิ 105 ได้เกวียนละ 15,000 – 18,000 บาท แต่พอมาปีนี้กลับขายได้เพียงเกวียนละประมาณ 6,2000 บาทเท่านั้น อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องราคาข้าวอย่างจริงจัง สำหรับวันนี้ตนก็ขนข้าวหอมมะลิและข้าวเปลือกมาจำหน่ายในงานด้วย แบ่งเป็นข้าวสารหอมมะลิ 50 กก. กก.ละ 28 บาท ข้าวเปลือกที่เป็นข้าวพันธุ์หอมมะลิ 105 จำนวน 30 กก. กก.ละ 20 บาท ถือว่าจำหน่ายในราคาไม่แพง แค่ขอให้พอลืมตาอ้าปากไม่เป็นหนี้สิน พออยู่พอกินอย่างพอเพียงตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
ด้าน นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ กล่าวว่า ทางจังหวัดพิษณุโลกเปิดพื้นที่ขายข้าวให้กับเกษตรกร เพื่อให้พี่น้องชาวเกษตรกรได้นำข้าวมาขายโดยตรงกับผู้บริโภค โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ส่วนข้าวสารที่เกษตรกรได้นำมาจำหน่ายในวันนี้มีทั้งแพ็คเกจที่สวยงาม และแพ็คเกจที่เป็นถุงพลาสติกธรรมดา ทั้งนี้อยากให้ผู้บริโภคเลือกรูปแบบไหนก็ได้ไม่ต้องคำนึงถึงแพ็คเกจ เพราะเราจะได้ช่วยพี่น้องชาวเกษตรกรให้หลุดพ้นจากปัญหาราคาข้าวตกต่ำไปได้ เพราะข้าวสารที่นำมาจำหน่ายในงานทั้งหมดเป็นข้าวปลอดสารพิษ ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคอย่างแน่นอน.