อดีตข้าราชการ ใช้เวลาว่างช่วงเป็นข้าราชการ มาทำนา แต่มีปัญหามาก จึงน้อมนำหลักเกษตรแบบผสมผสาน ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปฏิบัติ แปลงผืนนาปลูกเป็นสวนป่าครอบครัว จนเกิดเป็นรายได้อย่างยั่งยืนจริง ๆ หลังเกษียณ โดยเฉพาะมะดันดอง ที่ส่งขายไปแล้วทั่วประเทศ สถาบันพัฒนาสี่แยกอินโดจีนจึงยกย่อง
ที่ป่าครอบครัวของ นายประสิทธิ์ เพ็งหัวรอ ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการกองการประปา เทศบาลนครพิษณุโลก ได้ใช้เวลาว่างช่วงเย็น ๆ หรือเสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 เริ่มต้นจากมาทำนาก่อนในเนื้อที่ 11 ไร่ ที่มีอยู่ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ประสบกับแล้งและอื่น ๆ บ้าง จนกระทั่งได้ศึกษา และน้อมนำหลักการเกษตรแบบผสมผสาน ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปรับใช้ และรับรู้ได้ว่า นั่นแหละคือการปลูกพืชนานาชนิดเพื่อ จะได้เก็บประโยชน์ได้ตลอดปี ไม่มีอด โดยแบ่งเนื้อที่ขุดเป็นสระน้ำเก็บน้ำไว้ใช้ในสวนยามแล้ง และเจาะน้ำบาดาลไว้ส่วนหนึ่ง ส่วนพื้นที่ที่เหลือได้เปลี่ยนผืนนาเดิม ให้กลายเป็นสวน โดยนำพันธุ์ไม้เน้นเป็นไม้ยืนต้น และไม้ล้มลุกที่มีผลผลิตแล้วรับประทานได้มาปลูก เช่น ไม้สักทอง มะม่วง มะพร้าว ขนุน ชมพู่ กล้วย ฝรั่ง ไผ่ มะปราง ส้ม และพืชสมุนไพร ต่าง ๆ รวมทั้งไม้ในวรรณคดีด้วย ที่สำคัญ คือ มะดัน ที่ปลูกไว้มากกว่า 200 ต้น จนกลายเป็นป่าผืนใหญ่ ที่ผสมผสานตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยเริ่มลงมือปลูกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 อาศัยเวลาว่างนอกเวลาราชการมาปลูก ได้พันธุ์ไม้มาจากการซื้อ หรือแลกเปลี่ยนและขอ ลุงประสิทธิ์เล่าว่า ป่าครอบครัวนั้นอาจจะเป็นศัพท์ใหม่ แต่ดีกว่าป่าชุมชน เพราะเป็นการปลูกป่าในเนื้อที่มีโฉนดของครอบครัวตนเองอย่างถูกต้อง แต่เมื่อปลูกแล้ว ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย พรบ.ป่าไม้เหมือนกัน ที่สำคัญป่าครอบครัวนั้น จะถูกดูแลอย่างจริงจัง และใกล้ชิดกว่าป่าชุมชน ที่ปลูกแล้วไม่ค่อยได้มีการดูแล
เมื่อตนเกษียณอายุราชการมาแล้ว 2 ปีเต็ม ๆ ตนจึงมีเวลาดูแลป่าครอบครัวผืนนี้อย่างใกล้ชิด แต่ก็จำกัด เพราะอยู่กันแค่ 2 สามีภรรยา ที่อายุมากแล้ว ไม่มีแรงงานมาช่วย ทำเท่าที่ทำได้ แต่สิ่งที่ทำก็ทำให้จิตใจที่ได้อยู่กับธรรมชาตินั้นชุ่มชื่น มีพลัง และรายได้จากเกษตรผสมผสาน ก็สร้างรายได้ให้ตลอดปีจริง ๆ มีผลผลิตให้เก็บขายตลอด เนื่องจากที่นี่เน้นการทำสวนผสมผสานแบบไร้สารพิษ สารเคมี มีพ่อค้ามาติดต่อซื้อผลผลิตทั้งมาซื้อถึงสวน และส่งไปขาย เช่น มะดันดอง ที่สร้างรายได้กว่า 3 หมื่นบาท ต่อ 1 ครั้งผลผลิต โดยนำผลมะดันเปรี้ยว มาดองแบบโบราณ ไม่ใช้สารเคมี และอร่อยมาก จนมีออร์เดอร์สั่งซื้อเข้ามาไม่ขาดสาย ส่งไปขายเป็นถุงใหญ่ และพ่อค้าจะเอาไปแบ่งบรรจุถุงขายเป็นของฝากกันทั่วประเทศ ส่วนการตลาดคงจะขยายไปไม่ได้มากกว่านี้ ถึงแม้ลู่ทางการจำหน่ายมะดันดองจะดูสดใสมาก เพราะจำกัดด้วยแรงงานที่ทำกันเพียง สองคนสามีภรรยาเท่านั้น แต่ตนก็ยึดหลักพอเพียงของในหลวงมาใช้ จึงขอพอเพียงอยู่เท่าที่ทำได้ ส่วนใครจะมาต่อยอดอย่างไร ก็ไม่หวง ให้มาศึกษาดูงานได้ เพราะทุกวัน จะมีคณะต่าง ๆ จากทั่วประเทศ ติดต่อเข้ามาเที่ยวชมสวนป่าครอบครัวเพื่อศึกษาหาความรู้กันเป็นจำนวนมาก … ล่าสุด พลเอก ดร.ศิริ ทิวะพันธ์ ประธานสถาบันพัฒนาสี่แยกอินโดจีน ได้มอบโล่ และประกาศเกียรติคุณให้ ในฐานะที่เป็นผู้นำเอาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรผสมผสาน ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปฏิบัติจนประสบผลสำเร็จและเป็นกำลังใจให้ได้ต่อสู้ต่อไป ใครจะประสานขอเข้าชมสวนป่าครอบครัว ของ ลุงประสิทธิ์ เพ็งหัวหรอ นั้น ก็สามารถ ติดต่อมาได้ที่ โทร. 089-9573542
ขอบคุณภาพข่าวโดย…….คุณสุรเชษฐ์ มากร
…………………………………………………………………………………………………………………………….