เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 4 พ.ย. 2559 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา บนถนนเส้นมิตรภาพ (ขาเข้าเมือง) บริเวณสี่แยกอินโดจีน ม.7 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก ว่ามีชายวัยกลางคนกำลังเดินเท้ามุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานครเพื่อไปถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากการตรวจสอบพบบุคคลดังกล่าวทราบชื่อคือ นายนัด พงษ์สุพร อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 ม.2 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลหยดย้อย ท่ามกลางสภาพอากาศและแสงแดดอันร้อนอบอ้าว โดยในมือถือพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไว้แน่น แต่ก็พยายามเดินเท้าต่อไปข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่นอย่างตั้งใจ ขณะที่เมื่อเดินถึงสัญญาณไฟแดงมีประชนชาที่เห็นชายคนดังกล่าวหยุดรอ ต่างก็ลงจากรถยนต์มามอบน้ำดื่มให้เป็นกำลังใจพร้อมกล่าวชื่นชม และขอให้เดินทางไปถึงยังพระบรมมหาราชวังเพื่อถวายสักการะพระบรมศพฯ อย่างที่ตั้งใจเอาไว้
ขณะที่ นายนัด พงษ์สุพร กล่าวว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ได้ออกเดินทางมาจากบ้านพักที่ ต.บ้านกลาง อ.วังทอง เมื่อเวลา 09.09 น. และเดินเท้ามาเพียงลำพังเท่านั้น มีเพียงเต็นท์พักแรม 1 หลัง พร้อมกับน้ำดื่มอีก 2 ขวด ไว้ดื่มแก้กระหายระหว่างทาง ซึ่งตนเองตั้งใจเอาไว้ว่าจะขอทำดีทุกอย่างที่สามารถจะทำได้ จะจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และอยากจะเดินทางเข้าไปถวายสักการะพระบรมศพฯ ที่พระบรมมหาราชวังสักครั้งหนึ่งของชีวิต โดยถือพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และธงชาติไทยกับธงตราสัญลักษณ์ ภปร. ไว้ด้านหน้าเหนือศีรษะตลอดการเดินทาง ส่วนการเดินทางในแต่ละวันนั้นไม่ได้เน้นว่าจะต้องไปให้ถึงจุดหมายใด หากเหนื่อยหรือเมื่อยล้าก็จะหยุดพักค่ำไหนนอนนั่น พอมีแรงกำลังก็จะลุกขึ้นเดินเท้าต่อไปอีกเรื่อยๆ ให้ถึงยังจุดหมาย ส่วนวันนี้จะขอแวะกราบองค์หลวงพ่อพระพุทธชินราชและสมเด็จพระนเรศวร สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองพิษณุโลก เพื่อเป็นมงคลของชีวิตก่อนเดินทางต่อไป
ขณะที่บรรยากาศการเดินเท้าวันนี้ พบว่ามีรถพยาบาลวังทองที่พอทราบข่าวก็ได้จัดเจ้าหน้าที่พร้อมแพทย์พยาบาลออกมาดูแลคอยอำนวยความสะดวกให้ คาดว่า นายนัด พงษ์สุพร จะเดินทางถึง จ.พิจิตร ในช่วงสายของวันที่ 5 พ.ย.