เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 ที่บัลลังก์ 9 ศาลจังหวัดพิษณุโลก ท่านนิรันดร์ เนติไชยพันธ์ ผู้พิพากษา ได้นั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีระหว่างนายเรืองฤทธิ์ ศรีคาน ผู้ร้องกับนายสน หุมเพียง จำเลย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาฆ่าข่มขืน ดด.ญ.สราเพ็ญ ศรีคาน หรือ น้องพิ้งค์ อายุ 14 ปี เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 8 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ทั้งนี้มีพ่อแม่และญาติพี่น้องของ ร้องพิ้งค์ มา เข้ารับฟังคำพิพากษาในครั้งนี้ด้วย โดยตลอดเวลาที่ที่ศาลอ่านคำพิพากษา ทางพ่อแม่ที่นั่งฟังด้วยความสงบ ร่ำไห้เช็คน้ำตาเป็นช่วงๆ เนื่องจากไม่สามารถรับการกระทำผู้ต้องหาได้ เพราะเป็นการกระทำที่โหดร้ายอย่างมาก จนไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ ส่วนผู้ต้องหาซึ่งยืนรับฟังคำพิพากษาก้มหน้าตลอด
ทั้งนี้จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เพราะจำนนต่อหลักฐาน ไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาและไม่ปรากฏเหตุบรรเทาโทษอื่นที่สมควรจะลดโทษให้จำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จึงไม่ลดโทษ เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ให้ประหารชีวิตสถานเดียว พร้อมให้ชดใช้ค่าสินไหม 350,000 บาท ดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่ 1 ก.ค. 59
นายเรืองฤทธิ์. ศรีคาน พ่อของน้องพิ้งค์ กล่าวว่า พอใจในการตัดสินประหารชีวิต แต่ยังไม่รู้ว่าจะประหารชีวิตจริงหรือเปล่า ทุกวันยังคิดถึงลูกสาวตลอดเวลา แม้จะล่วงเลยมานานแล้วก็ตาม เพราะลูกเป็นคนดี อยากจะให้ประหารจริงๆ ไม่อยากให้ผู้ต้องหาอยู่ต่อไป เนื่องจากจะสร้างความเดือนร้อนกับคนทั่วไป ทำกับลูกของตนเหมือนสัตว์นรก
ทั้งนี้เหตุการณ์สะเทือนขวัญเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2559 ด.ญ.สราเพ็ญ ศรีคาน หรือ น้องพิ้งค์ อายุ 14 ปี ในวันเกิดเหตุได้อยู่ที่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 8 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ตามลำพัง และมีผู้ต้องหา คือ นายสน หุมเพียง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 8 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เพื่อนบ้านที่บ้านพักอยู่ติดกัน ได้ขึ้นมาบนบ้านน้องพิงค์ เข้าไปขอยืมที่ชาร์ตแบตเตอรี่ ภายในบ้านของน้องพริ้ง ซึ่งขณะนั้นผู้ต้องหาเห็นน้องพริ้งสวมใส่กางเกงขาสั้นจึงเกิดอารมณ์ และได้พูดจาแทะโลมหรือพูดจาแซวเย้าแหย่เด็กจนเกิดมีปากเสียงกันขึ้น จากนั้นด้วยความโมโหจึงเดินออกไปหยิบเชือกมารัดคอจนเสียชีวิต แล้วถอดเสื้อผ้าจนฉีกขาด เพื่อหวังข่มขืน หลังก่อเหตุได้หลบหนีเข้าป่าไป ชาวบ้านและจนท.ตำรวจได้ระดมกำลังออกตามล่าในวันนั้นทันที แต่ไม่พบตัว กระทั่งรุ่งขึ้น วันที่ 6 เมษายน 2559 จึงระดมกำลังค้นหาอีกครั้ง และสามารถจับกุมนายสน หุมเพียงได้ ขณะซ่อนตัวภายในไร่ข้าวโพดที่อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ 3 กม.
หลังจับกุมตัวได้ ได้ควบคุมตัวมาที่ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก พนักงานสอบสวน ได้แจ้ง 4 ข้อหาหนัก ประกอบด้วย 1.ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นความผิดอาญา 2.ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เป็นเหตุให้เด็กนั้นถึงแก่ความตาย 3.บุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย 4.ลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยมีอัตราโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.นครไทย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่การทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากชาวบ้านที่ยังอยู่ในอารมณ์โกรธแค้นจะรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหาได้ขณะที่พ่อแม่ของน้องพิ้งค์ ได้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพน้องที่บ้านพัก และฌาปนกิจ ในวันที่ 9 เมษายน 2559