เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 ตุลาคม 2559 ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ได้จัดพิธีถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ โดยมี นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นำเหล่าข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า และประชาชนร่วมทั้งผู้นำศาสนาในจังหวัดพิษณุโลก กว่า 5 ,000 คน ร่วมกันลงนามถวายความอาลัย และกล่าวคำถวายความไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้กล่าวคำถวายความไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ว่า ตลอดระยะเวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทรงครองราชย์ เป็นระยะเวลา 70 ปี ได้ทรงอุทิศความสุข ส่วนพระองค์ ในการดูแลทุกข์สุขของพสกนิกร พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปในทุกพื้นที่ ในถิ่นทุรกันดารอย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย โดยทรงงานในหลายเรื่อง ได้ให้แนวคิดและแนวทางไว้มากมายแก่ปวงชนชาวไทย ด้วยพระราชหฤทัย ที่ทรงมุ่งหวังให้ประชาชนมีความสุข
ส่วนตัวผมเองเคย ได้ มีโอกาสเคยร่วมรับเสด็จในครั้งที่ปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ในต่างจังหวัด ได้เห็นพระจริยวัตร อันงดงามและความวิริยะอุตสาหะที่พระองค์ท่านทรงมีต่ออาณาประชาราษฏร เป็นที่ประทับใจอยู่ตลอดมา ถึงวันนี้แม้นพระองค์ท่านเสด็จสวรรคตสู่สวรรคาลัยแล้ว เสียงทุกย่างก้าวพระบาทยังก้องอยู่ในดวงใจ มิลืมเลือน
สำหรับจังหวัดพิษณุโลก พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินมาถึง 13 ครั้ง ครั้งแรก เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2501 เสด็จที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร และประทับแรมที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก และครั้งที่สุดท้าย เสด็จเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2525 ทรงเปิดเขื่อนนเรศวร และเยี่ยมเยียนประชาชาชนชาวอำเภอพรหมพิราม อีกทั้งโครงการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ที่จังหวัดพิษณุโลก ก็เป็นโครงการที่ทรงมีพระราชดำริ ให้จัดสร้างขึ้น ซึ่งในปัจจุบัน มีคุณเอนกอนันต์ แก่พสกนิกรชาวพิษณุโลกและใกล้จังหวัดใกล้เคียง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของปวงชนชาวไทย ที่ทรงครองแผ่นดินด้วยทศพิธราชธรรม พระราชดำรัสที่ตรงตรัสไว้ว่า “ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนได้อย่างไร” พระองค์ไม่ละทิ้งและอยู่กับประชาชนของพระองค์ท่านตลอดมาจวบจนเสด็จสวรรคตสู่สวรรคาลัย อยากให้ประชาชนชาวไทยรักกัน มีความรักความสามัคคี เพื่อให้ดวงพระวิญญาณของพระองค์ ที่สถิต ณ สวรรคาลัย ได้มีพระเกษมสำราญ สมดังพระราชฤทัย ที่ทรงมุ่งหวังให้ชาวไทย มีความรักความสามัคคี
และในโอกาสนี้ ผมและชาวพิษณุโลก ขอกราบบังคมทูลถวายอาลัย ขอให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย และความจงรักภักดีจะสถิต คงมั่นในหัวใจของชาวพิษณุโลกและพสกนิกรชาวไทยตราบชั่วกาลนาน ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ หาที่สุดมิได้ ขอเป็นข้า รองพระบาททุกชาติไป
สำหรับบรรยากาศพิธีในวันนี้ เป็นไปอย่างเศร้า ข้าราชการ และประชาชนที่มาร่วมต่างตั้งใจแสดงความไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ และหลังจากพิธีกล่าวคำไว้อาลัยฯได้ร่วมกันลงนามถวายความอาลัยต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ที่ทางจังหวัดได้จัดเตรียมไว้และหลังจากนี้ประชาชนสามารถเดินทางมาลงนามถวายความไว้อาลัยได้ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลกที่บริเวณชั้น 1 ซึ่งทางจังหวัดได้จัดเตรียมสถานที่ตามวันเวลาราชการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….