สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตั้งศูนย์เฉพาะกิจเฝ้าระวังและติดตามข่าวสาร สพฐ. : OBEC News Vigilance Center เพื่อป้องกันการรับข่าวสารที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง จากสื่อหรือช่องทางการเผยแพร่ข่าวสารที่มีหลากหลายในปัจจุบันซึ่งอาจทำให้ผู้รับข่าวสารเกิดการเข้าใจผิด และนำเสนอข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันโดยมีเครือข่ายเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงทั่วประเทศ นายบุญรักษ์ ยอดเพชร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) โฆษก สพฐ. เปิดเผยว่า สื่อหรือช่องทางการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารนอกจากจะมีทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุกระจายเสียง และสื่อวิทยุโทรทัศน์ที่เราคุ้นเคยแล้ว ปัจจุบันยังมีสื่อทางอินเตอร์เน็ตที่สามารถเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้เข้าถึงผู้รับได้จำนวนมหาศาลในเวลาอันรวดเร็วจนน่าตกใจ ไม่ว่าจะเป็น เฟสบุ๊ค ยูทูป ทวิตเตอร์ เว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่นต่างๆ ด้วยความที่เป็นสื่อเสรีสามารถเข้าถึงบุคคลทุกเพศทุกวัยได้โดยง่ายจึงเกิดปัญหาตามมามากมาย เช่น ข้อมูลที่นำเสนอคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ส่งผลให้เกิดการเข้าใจผิด เกิดการลอกเลียนแบบจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กและเยาวชน และเกิดผลกระทบวงกว้างต่อในสังคมจำนวนมาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตระหนักในปัญหาดังกล่าวซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้บริหาร หน่วยงาน สถานศึกษา ครู นักเรียน และภาพลักษณ์ของ สพฐ. จึงจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจเฝ้าระวังและติดตามข่าวสาร สพฐ. : OBEC News Vigilance Center ขึ้น เพื่อเฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบ และประมวลข้อมูลข่าวสารต่างๆ หากพบข่าวสารที่มีความคลาดเคลื่อนและไม่ถูกต้องก็พร้อมดำเนินการชี้แจงและนำเสนอข้อเท็จจริงให้รับทราบและเข้าใจตรงกัน “ศูนย์ดังกล่าวจะประกอบด้วยคณะกรรมการเฝ้าระวังและติดตามข้อมูลข่าวสารซึ่งมีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศดำเนินการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อพบข่าวสารที่ไม่เป็นความจริง ประสบเหตุ หรือเผชิญสถานการณ์ที่สร้างความเสียหายหรือเกิดผลกระทบในวงกว้าง ก็จะรายงานต่อคณะกรรมการวิเคราะห์ข่าวสารและสร้างความเข้าใจในข้อเท็จจริง เพื่อนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องให้สาธารณะชนทราบและแก้ไขสถานการณ์ให้เกิดความเข้าใจตรงกันต่อไป” รองเลขาธิการ กพฐ. โฆษก สพฐ. กล่าว./ ____________________ ทีมข่าวเฉพาะกิจ ศตข.สพฐ.