วันที่ 27 กันยายน 2558 สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพิษณุโลก ยังคงท่วมเป็นวงกว้างที่อ.บางระกำ โดยเฉพาะในเขตต.คุยม่วง ต.ชุมแสงสงคราม และต.ท่านางงาม น้ำจากแม่น้ำยมหลากล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ทางการเกษตรนาข้าวเสียหายนับหมื่นไร่ หลายพื้นที่ได้สร้างแนวกั้นน้ำ เช่น ที่ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม ต.ท่านางงาม และต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้ามาท่วมนาข้าวที่อายุ 2-3 เดือนใกล้เก็บเกี่ยว ขณะที่หลายพื้นที่น้ำท่วมสูง ไม่สามารถเก็บเกี่ยว ขณะที่ชาวนาอีกหลายรายก็สู้กับน้ำอย่างเต็มที่ ลงไปใช้เคียวเกี่ยวข้าวในน้ำที่ลึก 1 เมตร
ที่ทุ่งวังแร่ ทุ่งนาผินกว้างของบ้านวังแร่ ม.3 ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก น้ำยมหลากจากอ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย และจากคลองเมม ได้หลากมาท่วมพื้นที่นาเป็นวงกว้าง วันนี้พบสองตายายชาวบ้านวังแร่ นายสน ด้วงต้อย และนางสมนึก ดวงต้อย อายุ 66 ปี ใช้เรือลงไปเกี่ยวข้าวในพื้นที่นาข้าวของตนเอง ที่กำลังถูกน้ำท่วม ระดับความลึกประมาณ 1 เมตร เนื้อที่ 12 ไร่ โดยใช้เคียวเกี่ยวข้าวที่เริ่มสุกแล้ว อายุ 80 กว่าวัน ใช้ตอกมัดเป็นกำ ใส่เรือแจว จูงขึ้นมาใส่รถอีกโก้ง นำไปตากแดดที่ลานบ้าน รอให้แห้ง ใช้รถไถย่ำ ได้เมล็ดข้าวพอจะขายได้ตันละ 2,000 บาท
นายสน ดวงต้อย เปิดเผยว่า ตนทำนาบริเวณทุ่งวังแร่มานากว่า 40 ปีแล้ว นาข้าวเคยถูกน้ำท่วมเสียหาย 2-3 ครั้ง ในปีทั่วไป ข้าวส่วนใหญ่ไม่เสียหาย เพราะจะเกี่ยวได้ทันก่อนน้ำมาท่วม แต่ต้นปีนี้แล้งมาก ไม่มีน้ำทำนา จึงทำให้ทำได้ล่าช้า ข้าวอายุได้ 80 วัน จำนวน 12 ไร่ ใกล้เก็บเกี่ยวได้แล้ว แต่น้ำเริ่มขึ้นมาเร็วมาก จะปล่อยทิ้งไว้ก็เสียดาย ลงทุนไปประมาณ 40,000 กว่าบาทแล้ว จึงพากันมาใช้เคียวเกี่ยวข้าวเท่าที่เกี่ยวได้ บางจุดก็อยู่ลึกมาก ไม่สามารถเกี่ยวได้ ถ้าตากแดดก็คงขายได้ตันละ 2,000 บาท แต่ยังดีกว่าปล่อยให้นาข้าวจมน้ำเสียหายไปโดยไม่ได้ทำอะไร
…………………………………………………………………………………………………………………………..