วันที่ 15 กันยายน 2559 ผู้สื่อข่าวสำรวจต้นน้ำลำเข็ก ที่หลากจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ยังแรงเชี่ยวกราก ก่อนหลากลงท่วมในพื้นที่ อ.วังทอง ขณะ ตามน้ำตกต่างๆของลำน้ำเข็ก แรงห้ามเล่นเด็ดขาด ขณะที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก รับหลากจากเทือกเขาเพชรบูรณ์เริ่มทรงตัวและยุบ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือมวลน้ำจากแพร่และสุโขทัย ในขณะนี้ที่คาดว่าจะมีถึงพิษณุโลก เช้าพรุ่งนี้มีปริมาณน้ำมาก กว่าเดิม อาจท่วมในพื้นที่ อ.พรหมพิรามและ อ.บางระกำ ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำหลากจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ เข้าท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.วังทอง อ.นครไทย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ตั้งแต่เมื่อช่วงวานที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ อ.นครไทยและ อ.เนินมะปราง ได้ลดระดับลงเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หรือแต่ พื้นที่ อ.วังทอง ที่ระดับน้ำแม่น้ำเข็ก ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำวังทอง ยังสูงและไหลแรงเชี่ยวกรากอยู่ ทำให้มวลน้ำในแม่น้ำวังทอง เอ่อล้นหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนในหลายตำบลของอำเภอวังทอง ถึงแม้ว่าล่าสุดระดับน้ำยังทรงตัว ไม่ขยายวงกว้างอีก
ผู้สื่อข่าวได้สำรวจลำน้ำเข็ก ซึ่งเป็นต้นน้ำ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ยังพบว่ายังมีปริมาณน้ำมาก น้ำยังขุ่นเป็นสีแดงไหลแรงและเชี่ยวกราก จนน้ำต่างๆที่อยู่ลำน้ำเข็ก ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกปอย น้ำตกแก่งซอง น้ำตกสกุโณทยาน ไหลแรงมาก ทางจังหวัดพิษณุโลก ได้ประกาศปิดน้ำตกและห้ามลงเล่นน้ำตกทุกแห่งที่อยู่ตามลำน้ำเข็ก
นางรติฬส มีคำแหง หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.พิษณุโลก กล่าวว่า สถานการณ์ในพื้นที่ อ.นครไทย อ.เนินมะปราง อ.วังทอง เริ่มทรงตัวบ้างแล้ว แต่ที่น่าเป็นห่วงในขณะคือมวลน้ำใหม่ที่จะไหลมาจากจังหวัดแพร่ ผ่าน จ.สุโขทัย และจะหลากมาทางแม่น้ำยมสายเก่า คือ ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม และ อ.บางระกำ ซึ่งเป็นมวลน้ำขนาดใหญ่ ที่คาดว่าจะมาถึงจังหวัดพิษณุโลกในวันพรุ่งนี้ อาจจะส่งผลให้พื้นที่ทางการเกษตรทั้ง 2 อำเภอถูกน้ำท่วมได้ เนื่องปริมาณน้ำแม่น้ำยมสายเก่ายังมีน้ำอยู่จำนวนมาก จากครั้งที่แล้ว หากสมทบมวลน้ำใหม่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขยายวงกว้างได้ ล่าสุดทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้ประชุมร่วมกับทหารกองทัพภาคที่ 3 เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมเตรียมรับมือมวลน้ำก้อนนี้แล้ว
……………………………………………………………………..