วันที่ 7 ก.ย. นายธนากร อึ้งจิตรไพศาล รอง ผวจ.พิษณุโลก เป็นประธานเปิดศูนย์ดิจิทัลชุมชน อบต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยมี ว่าที่ร้อยตรีธรรมนูญ ท้าวฮ้าย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่าง กล่าวให้การต้อนรับและรายงานการจัดตั้งศูนย์ดิจิทัลชุมชนต้นแบบ อบต.บ้านกร่าง มีข้าราชการสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่างรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธี จากนั้น นายธนากร รอง ผวจ.พร้อมคณะ ได้เยี่ยมชม บูธร้านค้าของชุมชนที่เข้าสู่ระบบการค้าออนไลน์ บูธแสดงนิทรรศการผลงานดำเนินงานของ กศน.จังหวัดพิษณุโลก บูธแสดงสินค้าหรือผลงานของหน่วยงานต่าง ๆ และพื้นที่ศูนย์ดิจิทัลชุมชน อบต.บ้านกร่าง
สำหรับศูนย์ดิจิทัลชุมชน อบต.บ้านกร่าง เกิดจากการลงนามความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกระทรวงไอซีที สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เพื่อร่วมกันส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งมีวิทยากรประกอบด้วย ครู กศน. และเน็ตอาสาของดีแทค ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนมาเป็นอย่างดี ร่วมกันถ่ายทอดประสบการณ์และได้ดำเนินการขยายผล โดยการจัดอบรมการใช้สมาร์ท โฟน การทำแฟนเพจเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า ผู้จบหลักสูตรสามารถนำความรู้ไปต่อยอด เช่น เปิดร้านส้มตำโดยใช้เฟซบุ๊กในการสื่อสารกับลูกค้า ผู้สูงอายุขายสินค้าออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก อีกทั้งทำให้ร้านค้าทั้งหมดในบริเวณศูนย์ฯ และพื้นที่ใกล้เคียงปรับเปลี่ยนเป็นร้านค้าออนไลน์ได้
นายกษม เหรัญ สถิติจังหวัดพิษณุโลก ในฐานะตัวแทนกระทรวงไอซีที กล่าวว่า ศูนย์ดิจิทัลชมชน อบต.บ้านกร่าง เป็นศูนย์อันดับแรกของจังหวัดและเป็นศูนย์อันดับที่สามของประเทศ การสร้างความรู้ความเข้าใจเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับประชาชนในด้านการใช้งานสมาร์ทโฟน การใช้แอปพลิเคชันส์ เช่น เฟซบุ๊ค ไลน์ รวมทั้งโปรแกรมประยุกต์ต่าง ๆ จากการสนับสนุนของบริษัทเอกชน เช่น เน็ตอาสาของดีแทค การทำงานอย่างเข้มแข็งของบุคลากรที่เป็นครู กศน. การสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้และงบประมาณจากกระทรวงไอซีที นับเป็นการสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับชุมชนอย่างแท้จริง เนื่องจากชุมชนแห่งนี้มีพื้นที่เหมาะสมกับการเปิดเป็นพื้นที่การเรียนรู้ มีความตื่นตัวและตอบรับในการที่จะเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ใช้ในการประกอบอาชีพผ่านระบบออนไลน์ เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว ตลอดจนการนำความรู้ความเข้าใจไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและคนในชุมชนได้เป็นอย่างดี
//////////