เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 30 ส.ค. ร.ต.ท.ประทิน ไชยยงค์ ร้อยเวร สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ภายในวัดเจดีย์ยอดทอง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ ที่เกิดเหตุพบพระสกุล สุจระจิตโต รองเจ้าอาวาส รอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมผู้เสียหายอีก 2 ราย ที่เป็นพระลูกวัดเดียวกันอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมกับพาเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่กุฎิพักจำวน 3 หลังที่ถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์สิน เป็นเงินสดจำนวนกว่า 2 หมื่นบาท
พระสกุล เปิดเผยว่า แต่เมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตนเองได้รับกิจนิมนต์ไปทำบุญที่ต่างจังหวัด จนกระทั่งกลับมาถึงที่พักพบว่า เงินที่ตนได้จากชาวบ้าเวลามาทำบุญประมาณ 10,000 บาท ซึ่งเงินดังกล่าวตนเองได้เตรียมทำบุญทอดกฐินวัดยากจน ได้ถูกคนร้ายขโมยไปหายไป นอกจากนี้กุฏิของพระสมหวัง สุมังคโร อายุ 61 ปี ก็ได้ถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์สินเป็นเงินสดจำนวน 1,500 บาทและกุฎิของพระธวัช ปวโร อายุ 34 ปี พระลูกวัดก็ถูกคนร้ายเข้าไปลักเงินสดจำนวน 5,000 บาท
จากการสอบในเบื้องต้นในวันเกิดเหตุเห็นนายเอ (นามสมมุติ)อายุ 19 ปี ซึ่งมีโยมที่มาทำบุญที่วัดได้นำมาฝากไว้เพื่อเตรียมตัวบวชเณรเข้ามาลักทรัพย์ดังกล่าว แต่ด้วยความที่ตนเองเป็นพระสายธรรมยุติไม่คิดจะสะสมเงินทอง จึงได้ให้อภัยและให้นายเอ ออกจากวัดไป ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จนกรทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายเอ ได้ย้อนกลับเข้ามาที่วัดและได้เข้าไปลักเงินสดภายในกุฎิของพระสมหวังอีก จึงได้ปรึกษากับญาติของนายเอ เพราะทนพฤติกรรมของนายเอไม่ไหว จึงได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทางด้านนางหวน แย้มขมัง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/1 หมู่ 1 ต.ท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเองเป็นป้าของนาเอ ก่อนหน้านี้นายเอ ได้เดินทางมาจากอุดรราชธานี เพื่อขออยู่ด้วย ตนเองจึงได้นำไปฝากงานให้ทำอยู่ที่โรงงานทำไก่สด แต่ทำได้ไม่นานถูกถูกไล่ออก จนกระทั่งนายเอ ตัดสินใจจะบวชเณร จึงได้นำมาฝากไว้ที่วัดเจดียอดทอง เพื่อเตรียมบวชเณรให้ แต่ก็ไม่คิดว่าหลานจะก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งในครั้งแรกทางพระได้ให้อภัยไปแล้ว หวังเพื่อให้กลับตัวกลับใจ และไล่ออกจาวัดไป แต่นายเอ ก็ย้อนกลับมาก่อเหตุอีก จึงได้ตัดสินใจให้ทางพระผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดี
//////////////