เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 29 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีคนร้ายเข้าไปขโมยทรัพย์สินของมีค่าหลายรายการในวัดคลองเรือ ม.11 ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก โดยคนร้ายได้งัดตู้บริจาคและขโมยเงินทำบุญ กระถางธูปทองเหลือง เชิงเทียนทรงเรือหงส์ และขันน้ำมนต์โบราณขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 15 นิ้ว หนักประมาณ 2 กก. แกะสลักลวดลายสวยงาม มีพญานาคพันโอบล้อมรอบอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้
ล่าสุด พ.ต.อ.สุรเดช พจนาวงษ์พานิช ผกก.สภ.วังทอง ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังทอง ลงพื้นเพื่อหาเบาะแสข่าวและเก็บร่องรอยของคนร้ายอีกครั้ง พบว่าบริเวณศาลานมัสการหลวงปู่ทวดมีกล้องวงจรปิดติดตั้งไว้จำนวน 1 ตัว ทางวัดแจ้งว่ากล้องวงจรปิดชำรุด จึงไม่สามารถจับภาพของคนร้ายขณะลงมือก่อนเหตุเอาไว้ได้ แต่ในทางสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่ามีชายไทยอายุประมาณ 30 ปี ซึ่งเพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำในคดีลักทรัพย์ได้ประมาณ 2 เดือน มักจะเข้ามาวนเวียนขอข้าววัดกินอยู่เป็นประจำ พอหลังเกิดเหตุขึ้นเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปที่บ้านพัก เพื่อนำตัวมาสอบถามว่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ก็ไม่พบตัวแต่อย่างใด โดยจะเร่งติดตามหาตัวชายคนดังกล่าวให้เร็วที่สุดเพื่อคลี่คลายคดีนี้
ด้าน นายบุญเรือง แตงก่อ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.พิษณุโลก มอบหมายให้ นางสุปราณี คงสมพงษ์ นักวิชาการศาสนาชำนาญการ เดินทางเข้าตรวจสอบทรัพย์สินที่หายไปของวัดคลองเรือแล้ว พร้อมทั้งจดบันทึกถ่ายรูปสถานที่เกิดเหตุยืนยันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนแจ้งให้ทางพระนิรันดร์ นิปะโก เจ้าอาวาสวัดคลองเรือ เรียกประชุมคณะกรรมการวัด ผู้นำชุมชน ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อมาปรึกษาหารือร่วมกัน และเร่งสำรวจตรวจสอบจัดทำรายการทรัพย์สินอื่นๆ ของวัดโดยด่วน เนื่องจากทรัพย์สินที่ถูกคนร้ายขโมยไปครั้งนี้ ทางวัดไม่ได้ถ่ายภาพเก็บเอาไว้ อาจจะทำให้ยากต่อการติดตามนำกลับคืนมา จึงขอให้วัดต่างๆ ในเขตพื้นที่ จ.พิษณุโลก ช่วยกันเฝ้าระวังเป็นหูเป็นตาคอยสอดส่องดูแลทรัพย์สินสำคัญของวัดด้วย สำหรับเรื่องนี้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.พิษณุโลก จะรายงานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติให้รับทราบต่อไป
//////////