เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 2 ส.ค. 2559 ร.ต.อ.ไพโรจน์ คล้ายสุวรรณ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์จนเกิดประกายไฟลุกไหม้ และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณสี่แยกเชิงสะพานเอกาทศรถ (ฝั่งตะวันออก) ถ.ราเมศวร ตัดกับ ถ.พุทธบูชา ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ พร้อมประสานรถน้ำจากเทศบาลนครพิษณุโลก จำนวน1 คัน ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้รถจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์ ยี่ห้อเวสป้า ทะเบียน ขมฉ 93 พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันฉีดน้ำประมาณ 20 นาที เพลิงจึงสงบลงส่วนรถได้รับความเสียหาย ถูกไฟไหม้ทั้งคันจนเหลือแต่ซาก ใกล้กันพบรถยนต์แท็กซี่ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน – เหลือง ทะเบียน ทข 51 พิษณุโลก จอดแน่นิ่งอยู่สภาพมีร่องรอยเฉี่ยวชนที่ฝากระโปรงหน้าจนยุบ หม้อน้ำแตก
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบในที่เกิด บริเวณริมฟุตบาทหน้าร้านเสบียงบุญ ตั้งอยู่เลขที่ 138-139 ถ.พุทธบูชา ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก ยังพบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายณัฐพงษ์ คุ้มภัย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93/1 หมู่ 1 ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก สภาพศพสวมเสื้อแขนสั้นสีน้ำตาล นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ นอนหงายจมกองเลือดและมีบาดแผลฉกรรจ์ที่บริเวณใบหน้า ในเวลาต่อมามี ร.ต.ต.ภาณุพงศ์ คุ้มภัย รอง สวป. สภ.เมืองพิษณุโลก บิดาของผู้เสียชีวิต หลังทราบข่าวได้เดินทางมาดูศพบุตรชายด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ส่วนคนขับรถแท็กซี่ ทราบชื่อคือ นายศราวุฒิ แสงจันทร์ ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายณัฐพงษ์ คุ้มภัย ผู้เสียชีวิต ได้ขี่รถเวสป้ากลับมาจากบ้านเพื่อน และกำลังเดินทางมุงหน้ากลับบ้านพัก แต่ระหว่างทางขี่มาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นสี่แยกเชิงสะพานเอกาทศรถ มีรถยนต์แท็กซี่ขับลงมาจากสะพานด้วยความเร็ว จนเป็นเหตุทำให้พุ่งชนกันอย่างจัง ส่งผลให้ร่างของนายณัฐพงษ์กระเด็นไปกระแทกกับกระถางต้นไม้ริมฟุตบาทจนเสียชีวิตคาที่ ส่วนรถเวสป้าไถลครูดไปกับพื้นถนนห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตร จนเกิดประกายไฟลุกไหม้ดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านเสบียงบุญ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดีดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนศพของผู้เสียชีวิตได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งนิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อผ่าชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนมอบให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป