จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก รับแจ้งพบศพชายถูกฆาตกรรมใช้ของมีคมแทงตามร่างกายนับ 8 แผล ก่อนนำศพมาทิ้งแม่น้ำยมสายเก่า หมู่ 11 บ้านท่าช้าง ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จนกระทั่งน้ำลดลงทำให้มีชาวบ้านที่มาหาปลาพบเข้า เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยตำรวจชุดสอบสวนได้ลงพื้นที่ติดตามหาข่าวจนทราบว่าผู้เสียชีวิต คือ นายเฮ็ม ซิงค์ อายุ 45 ปี เป็นชาวอินเดีย โดยเป็นเจ้าของร้านอาหารอินเดียชื่อว่า “เดอะ อาลีบาบา อินเดีย ฟูดส์ ตั้งอยู่เลขที่ 59/1 หมู่ 3 ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย จึงเดินทางไปตรวจสอบร้านอาหารดังกล่าว พร้อมสอบปากคำลูกจ้างของร้าน 2 คน ที่คาดว่าน่าจะมีส่วนรู้เห็นกับการเสียชีวิตของนายจ้าง ทราบชื่อคือ นายเดฟเวนเดอร์ ซิงค์ อายุ 25 ปี และนายรา วิช อายุ 24 ปี มาสอบคำปากผ่านล่ามชาวอินเดีย พร้อมตรวจร่างกายพบว่านายเดฟมีรองร่อยบาดแผลจากของมีคมตามร่างกาย ส่วนนายรา วิช อ้างว่าเพิ่งมาอยู่ จ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 13 ก.ค. นั้นไม่มีส่วนรู้เห็น แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะตรวจค้นห้องนอนของนายเดฟพบคราบเลือด จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการเก็บตัวอย่างเพื่อไปตรวจผลของดีเอ็นเออย่างละเอียดอีกครั้ง คาดว่าน่าจะรู้ผลภายใน 1 เดือน ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้งสองคนยังให้การปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ กับการเสียชีวิตของนายเฮ็ม ซิงค์ ขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น
ล่าสุด วันที่ 18 ก.ค. 59 พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พร้อมด้วย พล.ต.ต.รังสรรค์ คชไกร ผบก. ภ.จว.สุโขทัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเก่า จ.สุโขทัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ได้ควบคุมตัว 2 ชาวอินเดียที่ต้องสงสัยเป็นผู้ลงมือฆาตกรรมนายเฮม ซิง แล้วนำศพมาทิ้งไว้ในแม่น้ำยมสายเก่า คือ นายเดฟเวนเดอร์ ซิงค์ หรือ เดฟ อายุ 25 ปี และนายรา วิส อายุ 23 ปี มาสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ สภ.พรหมพิราม โดยใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมง ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ก็ยังให้การปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ กับการเสียชีวิตของนายเฮ็ม ซิงค์ ยืนยันจะขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจหนังสือเดินทางที่ระบุว่าเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเท่านั้น แต่มาทำงานอย่างผิดประเภท ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องดำเนินคดีในข้อหาคนต่างด้าวทำงานผิดประเภทโดยไม่ได้รับอนุญาต และควบคุมตัวกลับไปไว้ที่ สภ.เมืองเก่า จ.สุโขทัย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของ จ.พิษณุโลก และ จ.สุโขทัย ประสานการทำงานร่วมกันโดยพยายามเก็บรวบรวมหลักฐานในจุดเกิดเหตุให้มากที่สุด โดยเมื่อวานมีความคืบหน้าไปมาก คือ สามารถทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครอยู่ที่ไหน ก็ตามไปเชื่อมต่อที่ จ.สุโขทัยไปตรวจที่ร้านอาหารของผู้เสียชีวิต พบว่าในห้องนอนมีคราบเลือด รวมถึงที่รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ ที่คาดว่าบรรทุกร่างของนายเฮมไปทิ้งถ่วงน้ำก็มีคราบเลือดที่ช่องเก็บยางอะไหล่เช่นกัน ซึ่งชุดพิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานคราบเลือดเพื่อนำไปหาดีเอ็นเอ เราต้องใช้ผลยืนยันทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อขออนุมัติหมายศาลจับกุมตัวผู้กระทำผิด คงต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เพราะเนื่องจากผู้ต้องสงสัยซึ่งสภาพร่องรอย บาดแผลน่าเชื่อถือเกือบ 80% แล้ว พร้อมกับการสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์ก็ทราบว่าก่อนหายตัวไปนั้นผู้เสียชีวิตอยู่กับลูกจ้าง 2 คน รวมถึงจะเก็บหลักฐานจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางจากร้านอาหารออกมายังจุดทิ้งศพ เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำงานละเอียดทุกขั้นตอน ต้องสามารถตอบสถานทูตอินเดียได้ถึงเหตุการณ์จับกุมดำเนินคดี อย่างไรก็ตามเวลานี้ผู้ต้องสงสัยยังให้การปฏิเสธยังไม่ถือว่าเป็นผู้กระทำความผิด เพียงเข้าข่ายเป็นผู้ต้องสงสัยเท่านั้น ในส่วนของการดำเนินคดีต้องรอผลการตรวจดีเอนเอของนายเดฟเวนเดอร์ ซิงค์ และนายรา วิช รวมทั้งผลดีเอ็นเอจากคราบเลือดที่น่าเชื่อว่าเป็นเลือดมนุษย์ภายในห้องพักของนายเดฟเวนเดอร์ ซิงค์ และนายรา วิช รวมทั้งคราบเลือดที่พบบริเวณฝากระโปรงท้ายรถ รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้าซิตี้ ทะเบียน กจ 7763 สุโขทัย ของผู้ตาย ซึ่งขณะนี้ส่งให้ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งตรวจสอบแล้ว ซึ่งหากว่าผลตรวจพบว่าเป็นเลือดผู้เสียชีวิตจริง ก็จะดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ราย ได้อย่างแน่นอนเพราะมีหลักฐานมัดตัวอย่างแน่นหนา
ส่วนความเคลื่อนไหวที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 6 อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พล.ต.ท.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผบช.ภ.6 ได้เชิญระดับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด 9 จังหวัด และระดับผู้กำกับการสถานีตำรวจในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เร้นเพื่อกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันเกี่ยวกับชาวต่างชาติที่เข้ามาประกอบกิจการในจังหวัดของตนเอง ให้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พรหมพิราม ลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุที่พบศพนายเฮ็ม ซิงค์ ชาวอินเดียที่ถูกฆาตกรรมอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะอาจมีหลักฐานอื่นเพิ่มเติมโยงถึงคดีนี้
…………………………………………………………………………………………………………………