วันที่ 12ก.ค.2559 ที่ห้องประชุมรวมใจภักดิ์ นักประชาสัมพันธ์เขต 4 ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก นายภูมิสิทธิ์ ขันตยานุกูลกิจ ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 4 พร้อมด้วยนายสอน ขำปลอด ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคเหนือตอนล่าง ได้ร่วมกันแถลงข่าวกิจกรรม งดเหล้าเข้าพรรษา ชวนคนรัก พักตับ
โดย สำนักประชาสัมพันธ์เขต 4 ได้ร่วมกับ สสส.และเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคเหนือตอนล่าง ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาชวนคนรัก พักตับ ขึ้น เพื่อเขิญชวนให้ประชาชนลดการดื่มเหล้าในช่วงเข้าพรรษาอย่างต่อเนื่องทุกปี ที่ผ่าน ๆ มา มีประชาชนคนไทยเข้าร่วมงดเหล้าเข้าพรรษาเพิ่มขึ้นเรื่อยเรื่อยๆปัจจุบันมีประชาชนร่วมงดเหล้าเข้าพรรษาถึงร้อยละ 80 ในจำนวนนี้มีผู้งดเหล้าครบ 3 เดือน ประมาณร้อยละ 40 สามารถประหยัดเงินให้คนไทยในช่วงเข้าพรรษาประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท นอกจากนั้นข้อมูล สถิติพบว่าการเกิดอุบัติเหตุ อาชญากรรมในช่วงเข้าพรรษาลดลง ที่สำคัญเป็นการสื่อความรู้สึกไปสู่ครอบครัวคนไทยเจริญมาก
นายสอน ขำปลอด ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคเหนือตอนล่าง เปิดเผยว่า สสส.และเครือข่ายองค์กรงดเหล่าภาคเหนือตอนล่างได้จัดกิจกรรมรณรงค์ลดเหล้าช่วงเข้าพรรษามาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ปีนี้ใช้การณรรงค์ งดเหล้าพักตับให้ครบพรรษา 3 เดือน เนื่องจากปีที่ผ่านมาพบว่า ช่วงสัปดาห์แรกของการเริ่มต้นเทศกาลเข้าพรรษา มีผู้ร่วมงดเหล้าจำนวนมาก แต่ส่วนมากก็ลดได้แค่สัปดาห์แรกเท่านั้น จากนั้นก็กลับมาดื่มต่อ ปีนี้ องค์กรฯ ได้ร่วมกับเครือข่ายชุมชนรูปธรรมในเขตภาคเหนือตอนล่าง 277 ชุมชน ทำการณรงค์อย่างต่อเนื่องให้ผู้ดื่มสุราในชุมชน พยายามงดเหล้าเข้าพรรษาให้ได้ครบ 3 เดือน นอกจากตับจะได้พักเป็นผลดีต่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยประหยัดเงินของครอบครัว ของชุมชนอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น บ้านหัวแท ตำบลบ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก ที่ผู้ใหญ่บ้านเข้มแข็งและออกรณรงค์เชิญชวนให้ลูกบ้านงดเหล้า มีชาวบ้านที่เลิกเด็กขาดร่วม 60 คน เมื่อคิดการดื่มสุราวันละ 100-150 บาท สามารถประหยัดเงินในหมู่บ้านได้ถึงปีละ 2 ล้านบาท