วันที่ 3 ก.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องสะสมหลายวันในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขานครชุม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ไหลหลากมาตามน้ำตกตีนตั้ง และไหลมาสมทบกับห้วย หนอง คลอง บึง ต่างๆ ก่อนจะมีน้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน อาทิ นาข้าว ไร่ข้าวโพด ไร่อ้อย สวนพริก กว่า 1,000 ไร่ จำนวน 2 หมู่บ้าน ประกอบด้วย พื้นที่หมู่ 3 บ้านป่าซ่าน และ หมู่ 10 บ้านร้องยาง ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย ถูกน้ำท่วมจมมิดได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเริ่มไหลเข้าท่วมพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 2 และต่อเนื่องมาถึงวันที่ 3 กรกฏาคม นอกจากนี้ถนนที่ใช้สัญจรในหมู่บ้านก็ถูกน้ำท่วมระดับสูงด้วยเช่นกัน แต่ชาวบ้านได้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส พากันออกมายกยอหาปลานำกลับไปรับประทาน และนำไปจำหน่ายเป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัว
นางบุญเรียม แก้วสวย อายุ 60 ปี อาชีพทำนา อยู่บ้านเลขที่ 201 หมู่ 3 บ้านป่าซ่าน ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเองเพิ่งลงทุนไถนาหว่านข้าวแล้วเสร็จไปแล้วจำนวน 20 ไร่ แต่ด้วยสภาพดินฟ้าอากาศที่แปรปรวนจึงทำให้มีพายุฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลบ่าเข้าร่วมพื้นที่นาข้าวและพื้นที่เกษตรกรรมอื่นๆ ของชาวบ้านเสียหายอย่างหนัก กว่า 1,000 ไร่ แต่ก็ต้องทำใจทั้งที่เพิ่งลงทุนทำนาไปถึงไร่ละ 13,000 บาททีเดียว จึงได้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสชักชวนคนในหมู่บ้านพากันมายกยอหาปลาบริเวณจุดที่มีน้ำท่วมสูงและมีน้ำไหลเชี่ยว วันหนึ่งสามารถยกยอหาปลาได้ถึงคนละประมาณ 10 กก. ได้ปลาหลากชนิดกัน เช่น ปลาช่อน ปลาหมอ ปลาตะเพียน ปลาซิว ฯลฯ ซึ่งชาวบ้านที่มายกยอก็จะเตรียมนำข้องมาใส่ปลานำกลับไปรับประทาน หากเหลือต่อก็จะนำไปจำหน่ายเป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัวตัวเอง
สำหรับจุดที่เกิดน้ำท่วมครั้งนี้จะไหลไปร่วมกับบึงหลวงก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อยแล้วเข้าสู่เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาอีกก็จะสามารถระบายน้ำกลับสู่ภาวะปกติได้ไม่เกิน 4 วัน ส่วนพื้นที่นาข้าวของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมเสียหาย ชาวบ้านจะแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้ามาสำรวจความเสียหายเยี่ยวยาให้ความช่วยเหลือต่อไป.
