เวลา 10.00 น. วันที่ 1 กรกฏาคม 2559 ที่กองพลทหารราบที่ 4 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายสมศักดิ์ เพ็ชรพิจิตร ทนายความ พร้อมด้วยนางเงิน โกษาจันทร์ อายุ 46 ปี ภูมิลำเนาบ้านเลขที่ 216 ม.3 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้เดินทางมาร้องทุกข์กับพลตรีนพพร เรือนจันทร์ ผบ.พล.ร.4 กรณีนางเงิน โกษาจันทร์ ถูกจนท.ป่าไม้เข้าแจ้งความและดำเนินคดีกับนางเงิน ในข้อหาตัดไม้และทำไม้ในป่าสงวน ฯ ซึ่งเจ้าทุกข์ระบุว่า ไม่เป็นความจริง ไม้ทั้งสองต้นที่ถูกโค่น ในที่ที่ดินทำกินของนางเงิน ถูกตัดโค่นลง แต่ไม่ทราบใครเป็นผู้ตัด แต่มีผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เข้าแจ้งต่อจนท.ป่าไม้ว่านางเงินเป็นคนตัด จนนำเรื่องส่งพนักงานสอบสวนสภ.แก่งโสภา และขณะนี้คดีอยู่ในชั้นอัยการ
นางเงิน โกษาจันทร์ อายุ 46 ปี ชาวบ้านน้ำริน ม.3 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนถูกนายกองจา นันตีภา ผู้ใหญ่บ้านม.3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ประจำหน่วย ปปพล.8 ( น้ำยาง ) ใส่ร้ายกลั่นแกล้งกล่าวหาว่า ตนตัดต้นไม้ 2 ต้น ในเขตที่ดินป่าสงวน แต่ความจริงแล้ว ต้นไม้ที่ถูกตัด อยู่ในเขตที่ดินที่ตนทำกินมาหลายสิบปี และขณะนี้อยู่ระหว่างขอหนังสืออนุญาตทำประโยชน์ในที่ดินเขตปฏิรูปที่ดิน และภายหลังไปตรวจสอบที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก ไม่ได้เป็นที่ดินในป่าสงวน พร้อมกับตนเองก็ขอยืนยันว่า ไม่ได้ตัดต้นไม้ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ก็ไม่ได้พบเห็นว่าตนกำลังตัดไม้ อีกทั้งไม่พบเครื่องมืออุปกรณ์ทำไม้
นางเงินระบุว่า สาเหตุมาจากปัญหาการแบ่งที่ดินในพื้นที่ ซึ่งเป็นที่ดินของพ่อสามีตน และตนก็ทำกินมาเป็นเวลากว่า 30 ปี เคยมีการเจรจาตกลงไกล่เกลี่ยที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวังทองเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 แต่เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2559 นายกองจา นันตีภา ผู้ใหญ่บ้านม.3 พาเจ้าหน้าที่อปพร.มาทำการวัดเพื่อแบ่งแยกที่ดินที่เคยไกล่เกลี่ยกันไว้ แต่การวัดแบ่งที่ดินตกลงกันไม่ได้ ทำให้นายกองจา โกรธ จึงพูดกับตนว่า จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้มาจับตนที่ตนตัดต้นไม้ 2 ต้น ซึ่งครั้งนั้นตนไม่ได้ตัดต้นไม้ดังกล่าว จึงไม่ได้ติดใจคำพูดของนายกองจา
ต่อมา วันที่ 8 มีนาคม 2559 ตนได้ทราบจากหลาน ๆ ว่า ผู้ใหญ่บ้านได้พาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไปตัดทอนไม้ในที่ดินของตน และที่ตนเองรู้ตัวว่า ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้แจ้งความจับว่าตัดไม้ เพราะเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2559 ตนเดินทางไปที่สภ.แก่งโสภา เพื่อแจ้งความว่ามีผู้เข้าไปลักปลาและนำรถไถเหยียบย่ำต้นอ้อยของตน พนักงานสอบสวนจึงบอกตนว่า ตนถูกแจ้งความจับว่าตัดไม้ เพราะความสงสารจึงบอกให้ทราบ ให้หาหลักฐานมาเตรียมตัวรับทราบข้อกล่าวหา ตนจึงได้สอบถามพนักงานสอบสวนจึงทราบว่า นายกองจา เป็นผู้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้กล่าวหาตน โดยอ้างว่าตนเป็นคนพูดเองว่าเป็นคนตัดไม้ ตนจึงให้การปฏิเสธ และเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2559 ตนจึงไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวังทอง เพื่อให้ส่วนราชการช่วยเหลือขอความเป็นธรรมแต่ไม่ได้ผล จนกระทั่งเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2559 จึงถูกพนักงานสอบสวนส่งตัวให้สำนักงานอัยการจังหวัดพิษณุโลกเพื่อฟ้องศาลในข้อหา ทำไม้ หรือ ทำด้วยประการใด ๆ แก่ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
การที่นายกองจา นันตีภา ผู้ใหญ่บ้านม.3และจนท.ป่าไม้ประจำหน่วยปป.พล.8 พิษณุโลกกล่าวหาว่าตนตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งเป็นความผิดที่มีอัตราโทษสูง ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ไม่มีพยานหลักฐาน อีกทั้งต้นไม้ก็อยู่ในที่ดินทำกินทำประโยชน์ ไม่ได้อยู่ในเขตป่าสงวนเป็นเจตนากลั่นแกล้งใส่ร้ายให้ต้องถูกจับกุม
นางเงิน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ ที่ดินบริเวณดังกล่าว เป็นที่ดินที่สปก. ได้กันออกจากป่าสงวนแล้ว และมีการยื่นเรื่องขอออกสปก.มาตั้งแต่ปี 2552 แล้ว ตนก็ได้ยื่นเรื่องไว้ แต่ปรากฏว่า ที่ดินของตนกลับตกสำรวจ ไม่ได้เอกสารสิทธิ์สปก. ขณะที่พื้นที่บริเวณรอบ ได้เอกสารสิทธิ์สปก.ไปแล้ว และขณะนี้ก็ได้ไปยื่นเรื่องเพิ่มเติมกับสปก.พิษณุโลกแล้ว เพื่อขอออกเอกสารสิทธิ์ เป็นที่ดินทำกินที่ตกทอดกันมานานตั้งแต่พ่อของสามีตน นายคงเมือง โกษาจันทร์ และมีการแบ่งให้กับเครือญาต 4-5 รายไปแล้ว เหลือที่ดินที่ตนทำกินประมาณ 20 ไร่
นายสมศักดิ์ เพ็ชรพิจิตร ทนายความเปิดเผยว่า ตนรู้จักกับนางเงิน และมาช่วยเหลือเป็นทนายความให้ เพราะก่อนหน้านี้ตนเป็นทนายขอแรงให้กับนายอภิชาต โกษาปาน อายุ 28 ปี บุตรชายของนางเงิน ที่ถูกผู้ใหญ่บ้านคนเดียวกันนี้แจ้งความจับในข้อหาขโมยอาวุธปืน ( ขณะนี้เรื่องอยู่ในชั้นศาล ) เมื่อนางเงินรู้ตัวว่าถูกแจ้งความจับว่าตัดไม้ 2 ต้นในเขตป่าสงวน จึงมาปรึกษาตน ตนจึงรับเรื่องมาให้ ได้ไปสอบถามกับป่าไม้ว่า ไปจับนางเงินได้มีใครเห็นเหตุการณ์ขณะนางเงินตัดไม้หรือไม่ ก็ได้ความว่าไม่มี มีเพียงคำกล่าวหาของผู้ใหญ่บ้าน และนำไปสู่การแจ้งความจับ ขณะนี้เรื่องอยู่ในชั้นอัยการ ตนก็เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงพานางเงินมาร้องทุกข์กับผบ.พล.ร.4 ในครั้งนี้
พลตรีนพพร เรือนจันทร์ ผบ.พล.ร.4 เปิดเผยว่า รับเรื่องนี้ไว้พิจารณา จะทำหนังสือเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มาประชุมร่วมกันในวันที่ 8 กรกฏาคม 2559 นี้ เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริง หาความยุติธรรมให้กับทุกฝ่าย ทั้งอัยการจังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก สภ.แก่งโสภา สปก.พิษณุโลก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงผู้ที่มีส่วนในการแบ่งที่ดินทำกินที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้ ตนยังได้รับข้อมูลเพียงด้านเดียว จึงต้องเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาประชุมร่วมกัน จะให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย