เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.59ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศาลาการเปรียญวัดหนองกวางลี้ หมู่ 8 ต.ดอนทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก พระเกษมวาปีพิสัย เจ้าคณะตำบลดอนทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก พระครูสมุห์ภราดร จนฺทสาโร เลขานุการเจ้าคณะอำเภอเมืองพิษณุโลก พระปลัดอุดมศักดิ์ อุตตมสกฺโก รองเจ้าอาวาสวัดท่ามะปราง อ.เมืองพิษณุโลก พร้อมคณะกรรมการสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ สำนักพุทธศาสนา ศูนย์ดำรงธรรม เข้าตรวจสอบ เจ้าอาวาสและไวยาวัจกร วัดหนองกวางลี้ โดยมีชาวบ้านประมาณ 100 กว่าคนเข้ารับฟังคำชี้แจ้งในวันนี้ ทั้งนี้สืบเนื่องจาก พระอธิการสีลา เตชวโร เจ้าอาวาสวัดหนองกวางลี้ ได้ทำการห้ามปราบ พระสำราญ ฐานวโร พระลูกวัดหนองกวางลี้ หลังจากได้รื้อศาลาหลังเก่า แต่ไม่มีการแจ้งให้เจ้าอาวาสทราบ หลังจากเจ้าอาวาสวัดทราบจึงเข้าไปห้ามปราบ แต่พระสำราญไม่หยุดการกระทำ และไม่เชื่อฟังทั้งที่เป็นเพียงพระลูกวัด พร้อมยังคงรื้อศาลาหลังเก่าต่อไปอีก ทางเจ้าอาวาสจึงได้แจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังเกิดเหตุพระสำราญได้หายออกจากวัดไป ทำให้ผู้นำหมู่บ้านและชาวบ้านไม่พอใจ เนื่องจากคิดว่าเจ้าอาวาสวัดได้ทำการขับไล่ พระสำราญ ฐานวโร พระลูกวัดหนองกวางลี้ออกจากวัด ทั้งทีพระสำราญรับสารภาพว่าออกจากวัดไปเอง ทางชาวบ้านจึงได้รวมตัวมาขับไล่เจ้าอาวาสให้พ้นจากวัด โดยมีการกล่าวหาต่างๆนานา เพื่อให้เจ้าอาวาสออกจากวัดให้ได้ และจะเลือกพระภิกษุที่กลุ่มของตนเองชอบขึ้นมาเป็นเจ้าอาวาสแทน จึงเกิดมีชาวบ้านแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายที่ต้องการและฝ่ายไม่ต้องการเจ้าอาวาส กระทั่งมีหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบ จนต้องเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว
พระเกษมวาปีพิสัย เจ้าคณะตำบลดอนทอง กล่าวว่า ได้เปิดรับความความต้องการของชาวบ้าน พร้อมชี้แจงถึงระเบียบของพระสงฆ์ ตามหนังสือร้องเรียนชาวบ้าน ได้ข้อสรุปจากการตรวจสอบเจ้าอาวาสวัดหนองกวางลี้ ไม่มีความผิดใดใดที่ขัดต่อกฎหมายสงฆ์ แต่หากชาวบ้านไม่พอใจคำตัดสินยืนยันจะขับไล่เจ้าอาวาสก็ขอให้ประชาชนในหมู่บ้านกว่า 1,000 คน ได้ร่วมกันทำประชาคม ว่าต้องการเจ้าอาวาสอยู่อีกต่อไปหรือไม่ หากเสียงประชากรในหมู่บ้านเกินกว่าครึ่งหนึ่ง หรือประมาณ 500 คนขึ้นไป หากเสียงส่วนมากไม่เอาเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ทางเจ้าอาวาสองค์ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ตามความต้องการของประชาชน แต่หากเสียงชาวบ้านยังต้องการเจ้าอาวาสมากกว่า ทางชาวบ้านต้องยอมรับความจริง และให้เจ้าอาวาสดำรงตำแหน่งต่อไป ส่วนจะทำประชาคมเมื่อใดขอให้ชาวบ้านกำหนดและแจ้งให้คณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่ทราบด้วยเพื่อมาเป็นสักขีพยานการทำประชาคมดังกล่าวล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่และชาวบ้านทั้ง 2 กลุ่ม ได้ข้อยุติเรียบร้อย หลังมีการสอบถาม ปรากฏว่าส่วนใหญ่ยังต้องการให้เจ้าอาวาสรูปเดิมเป็นเจ้าอาวาสต่อไป เนื่องจากตรวจสอบแล้วไม่พบการกระทำผิด ตลอดทั้งเงินที่ใช้จ่ายทั้งหมดถูกต้อง และยังสร้างคูณประโยชน์ให้กับทางโรงเรียน ในการสร้างทางคอนกรีต และบูรณะก่อสร้างวัดเจริญกว้าหน้า ตลอดเวลาที่เป็นเจ้าอาวาสกว่า 10 ปี