เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 13 มิ.ย. 2559 ที่บริเวณจุดสามเหลี่ยมชายธงของพื้นที่วัดราชบูรณะ หรือพื้นที่เชิงสะพานนเรศวร ติดกับวัดนางพญา และใกล้วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ พระอารามหลวงชั้นเอก ริมถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก นายบุญทรง แทนธานี นายกเทศมนตรีเทศบาลนครพิษณุโลก พร้อมด้วยนายเจริญเกียรติ เจริญชันษา ปลัดเทศบาลนครพิษณุโลก และสมิต เสริมนิภารัตน์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง ได้เดินทางมาชี้แจ้งกับพี่น้องประชาชนชาวพิษณุโลก หลังจากมีกรณีที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่เช่าพื้นที่ของวัดราชบูรณะ กำลังดำเนินการใช้รถเครนขนาดใหญ่มาติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณดังกล่าว โดยชาวพิษณุโลกจำนวนมากรู้สึกไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เนื่องจากจุดที่ก่อสร้างป้ายโฆษณานั้นขนาดใหญ่โตมโหฬาร และอยู่ใกล้วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ ซึ่งเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก สถานที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง จึงนัดรวมตัวกันเดินทางมาสอบถามเพื่อให้ได้ข้อยุติของการหยุดดำเนินการก่อสร้างและรื้อถอนป้ายโฆษณาออกไปทั้งหมด
นายบุญทรง แทนธานี นายกเทศมนตรีเทศบาลนครพิษณุโลก กล่าวว่า เบื้องต้นทางเทศบาลนครพิษณุโลกได้ให้เจ้าหน้าที่สำนักการช่างนำหนังสือคำสั่งเลขที่ 52006/2533 ลงวันที่ 13 มิ.ย. 2559 ห้ามใช้อาคารหรือยินยอมให้บุคคลใดใช้อาคารที่เป็นภยันตราย ตามมาตรา 40 วรรค 1 หรือมาตรา 41 วรรค 1 (กรณีการก่อสร้าง ดัดแปลง เคลื่อนย้ายหรือรื้อถอนอาคารไม่ได้รับอนุญาต) มาแปะไว้ที่โคนเสาป้ายโฆษณาที่ก่อสร้างด้วยโครงเหล็ก ขนาดกว้าง 9.216 เมตร ยาว 20.45 เมตร สูง 21.216 เมตร โดยก่อสร้างบนที่ดินของวัดราชบูรณะเป็นเจ้าของที่ดินให้บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเช่าพื้นที่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น และป้ายที่ก่อสร้างขัดต่อกฎหมายว่าด้วยควบคุมป้าย หรือสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับติดหรือตั้งป้าย และข้อกำหนดของผังเมืองรวมพิษณุโลก
โดยทางเทศบาลนครพิษณุโลกได้แจ้งไปยังผู้ดำเนินการก่อสร้างว่าป้ายนี้ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ให้ระงับการก่อสร้างป้ายไว้ก่อน เพื่อมิให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง แต่ผู้ดำเนินการก่อสร้างไม่ยอมหยุดระงับการก่อสร้างป้ายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่เทศบาลจึงเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองพิษณุโลก ไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี เมื่อวันที่ 11 และ 12 มิถุนายน 2559 ก่อนจะออกคำสั่งให้รื้อถอนป้ายโฆษณาภายใน 30 วัน ถ้าไม่มีการรื้อถอนอาคารตามคำสั่งของพนักงานท้องถิ่น ก็จะดำเนินการยืนคำร้องต่อศาลขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกหรือทั้งจำทั้งปรับด้วย และที่เดินทางมาวันนี้ก็เพื่อมีความเข้าใจอันดีต่อพี่น้องชาวพิษณุโลก ที่มีความเป็นห่วงและกังวลเกี่ยวกับความเสียหาย ภาพลักษณ์ ที่อาจจะทำให้บริเวณดังกล่าวสูญเสียทัศนียภาพเดิม พร้อมรับฟังทุกความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน จึงมีคำสั่งให้บริษัทเอกชนยุติดำเนินการก่อสร้าง หากยังขืนก่อสร้างต่อไปอีกก็จะมีโทษทางอาญา อีกทั้งพี่น้องประชาชนก็สามารถไปร้องต่อศาลปกครองได้อีกทางหนึ่งด้วย