เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 มิถุนายน 2559 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งชุดสืบสวนสอบสวน จนท.พิสูจน์หลักฐาน 6 เพื่อเร่งคลี่คลายคดีที่ พบศพนายธนธรรม ใจบุญ อายุ 49 ปี 315/41 ถนนพระองค์ดำ อ.เมืองพิษณุโลก พ่อค้าขายหอยทอดย่านตลาดสดโคกมะตูม สภาพศพใช้เชือกพลาสติกยาวกว่า 3 เมตรผูกคอกับขื่อบ้าน ชั้นล่าง และที่ปากพบแลคซีนสีน้ำเงินพันรอบปากและศีรษะ และยังพบข้อความข่มขู่ พร้อมบันทึกการแจ้งความของผู้เสียชีวิตในบ้านพัก หลังจากพบศพในช่วงค่ำของวันที่ 7 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา ที่บ้านพักของนายธนธรรม ถ.อู่ทอง อ.เมืองพิษณุโลก ทั้งนี้เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชนจำเป็นต้องคลี่คลายโดยเร็ว
โดยขณะนี้ทางศพของผู้เสียชีวิตอยู่ระหว่างการชันสูตรพลิกศพของทางโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อให้ทราบว่าเสียชีวิตจากสาเหตุอะไร พร้อมทั้งรอลายนิ้วมือจากเชือกที่ผูกคอตายโดยทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 6 พิษณุโลกกำลังตรวจสอบ
พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเนื่องจากเบื้องต้นการพบศพของผู้เสียชีวิตมีลักษณะแปลก ที่มีการใช้แลคซีนมัดปากไว้ และยังพบจดหมายข่มขู่ รวมทั้งก่อนที่จะเสียชีวิตมีการได้เข้าแจ้งความไว้ที่สภ.เมืองพิษณุโลก โดยเรื่องนี้ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีให้สืบสวนสอบสวนอย่างรัดกุมมากที่สุด ส่วนประเด็นที่ว่าถูกฆาตกรรมหรือไม่ ต้องรอผลพิสูจน์อย่างแน่ชัดถึงจะบอกได้ว่าเป็นการฆาตกรรม หรือ ผูกคอตายเอง ทั้งนี้เนื่องจากผู้ตายมีปัญหาทั้งเรื่องโรคประจำตัว ป่วยเป็นโรคมะเร็ง และหนี้สินจำนวนมาก อาจเป็นสาเหตุให้ฆ่าตัวตาย แต่อย่างไรก็ไม่ทิ้งประเด็นการฆาตกรรมเพราะมีหลายข้อที่ต้องสงสัยว่าเอาเชือกไปผูกกับขื่อได้อย่างไร แลคซีนที่นำมาปิดปากส่วนที่เหลือหายไปไหน แลคซีนที่นำมาปิดปาก ก็ไม่ได้ใช้ส่วนที่เป็นกาวมาปิดปาก แต่กลับใช้สองแผ่นมาแปะติดกัน ซึ่งในส่วนนี้ พิสูจน์หลักฐาน ต้องตรวจดีเอ็นเอ ว่ามีดีเอ็นเอของบุคคลอื่นบนแลคซีนที่ปิดปากผู้เสียชีวิตด้วยหรือไม่ รวมทั้งเรื่องของกระเป๋าที่เป็นปริศนาตามข้อความที่ถูกข่มขู่ และรอยเท้าที่พบด้านหลังบ้าน
ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก เผยต่อว่า การดำเนินการสอบสวนได้ยึดหลักนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก ยังคงต้องรอผลการชันสูตรอย่างละเอียดจากแพทย์เวร ซึ่งจากการตรวจสภาพศพในที่เกิดเหตุเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกาย จากเวลารับแจ้งพบศพ ช่วงค่ำของวันที่ 7 มิถุนายน 2559 คาดว่า จะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-12 ชั่วโมง หรือ อยู่ในช่วงเวลา 10.00-12.00 น. ของวันที่ 7 มิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงเวลากลางวัน แต่ก็ไม่มีพยานเห็นบุคคลใดเข้าออก และต้องพิจารณาหลักฐานหลายอย่างประกอบการชันสูตร การทำคดี เนื่องจาก มีข้อสงสัยเรื่องประเด็นข้อความการข่มขู่ ที่เขียนมาติดไว้หน้าบ้านผู้เสียชีวิต เป็นการเขียนบนจดหมายที่ส่งมาที่บ้านผู้เสียชีวิตเอง ซึ่งต้องไปพิสูจน์ลักษณะลายมือ ว่าเป็นลายมือของผู้เสียชีวิตหรือไม่ การเข้าไปแจ้งความโดนข่มขู่ที่สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา
และบันทึกส่วนตัวของผู้เสียชีวิต ที่เขียนไว้จำนวน 6 หน้ากระดาษ ลงเวลา 23.00 น.ของวันที่ 6 มิถุนายน ที่เขียนมีใจความสรุปว่า มีการข่มขู่ แต่กลับมีข้อน่าสังเกตอยู่มาก เนื่องจากในบันทึก กับเขียนบอกไว้ด้วยว่า ถ้าตายไป เงินจากประกันชีวิตที่ทำไว้ ระบุมอบให้บางคน และให้นำไปใช้หนี้ พร้อมเขียนบอกในบันทึกด้วยว่า ถ้าเสียชีวิต ให้นำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดโคกมะตูม หรือ วัดศรีวิสุทธาราม เป็นเวลา 2 วัน ซึ่งโดยทั่วไป ถ้าฆ่าตัวตายเอง ประกันก็จะไม่ชดใช้สินไหมให้ และถ้าถูกฆาตกรรม ทำไมจึงมีข้อความบันทึกของผู้เสียชีวิตที่สั่งเสียในหลายเรื่องไว้ก่อน ขณะนี้จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เป็นการฆาตกรรม หรือ การฆ่าตัวตาย ต้องรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ พยานแวดล้อม พยานบุคคล ทุกอย่างมาประกอบ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….