เมื่อเวลา02.00 น.ของวันที่ 4 มิ.ย. พ.ต.ท.รักถิ่น บำรุงศรี พนักงานสอบสวน สภ.ย่อย มหาวิทยาลัยนเรศวร อ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เก๋งถูกรถทัวร์โดยสารชนเสียชีวิต บนถนนเลี่ยงเมืองพิษณุโลก – อุตรดิตถ์ บริเวณสี่แยกวัดสกัดน้ำมัน ม.2 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรและสมาคมกู้ภัยข่าวภาพ ที่เกิดเหตุพบรถทัวร์โดยสารกรุงเทพ – พะเยา สีฟ้าขาว หมายเลขตัวรถ 922-13 หมายเลขทะเบียน 15-7247 กทม. ของบริษัทสมบัติทัวร์ ปีนอยู่บนเกาะกลางถนน ชนรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแลนเซอร์ สีแดงเลือดหมู หมายเลขทะเบียน กธ 6093 พิษณุโลก สภาพด้านข้างถูกชนเข้าอย่างเต็มที่ จนกระจกด้านหน้าและด้านหลังแตกกระจาย ภายในรถยนต์เก๋ง พบผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายอมรินทร์ ทิพาทรัพย์สพรั่ง อายุ 39 ปี เป็น อปพร. อบต.ท่าโพธิ์ อยู่บ้านเลขที่ 300/126 ม.5 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องอุปกรณ์ตัดถ่างเพื่อนำร่างของผู้เสียชีวิตออกจากตัวรถโดยใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงจึงนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาจากซากตัวรถได้
จากการสอบถามนายนายสมจิตต์ สุโพธิ์ อยู่บ้านเลขที่ 131 ต.ตลาดไทร อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา โชว์เฟอร์คนขับรถยนต์โดยสารได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้รับผู้โดยสารจากกรุงเทพ ไปส่งปลายทางที่ จ.พะเยา มีผู้โดยสารมาเต็มคันรถ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นสี่แยกไฟแดง ตนก็วิ่งมาปกติ แต่อยู่ๆ รถเก๋งคันดังกล่าว ได้ขับฝ่าไฟแดงมา ทำให้ตนเองเบรกไม่ทันพุ่งชนเข้าเต็มที่เป็นเหตุให้คนขับรถยนต์เก๋งเสียชีวิตดังกล่าว
สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจประจำ สภ.ย่อย มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนั้นได้รับแจ้งว่ามีผู้ขับรถยนต์เก๋ง คันดังกล่าวจอดหลับอยู่บริเวณสี่แยกวัดสกัดน้ำมัน จึงได้ขับรถออกมาตรวจสอบดู ก็พบว่า นายอมรินทร์ ผู้เสียชีวิต ได้จอดรถหลับอยู่บริเวณสี่แยกไฟแดง หันหน้าไปทางวังน้ำคู้ จากนั้นจึงได้พยายามปลุกนายอมรินทร์ ตื่นเพื่อให้ขับรถไปนอนในที่ปลอดภัย แต่เมื่อนายอมรินทร์ สะดุ้งตื่นและเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ตกใจ รีบออกรถยนต์ทันที โดยไม่ทันมองสัญญาณไฟแดง และเป็นจังหวะ ที่รถทัวร์โดยสารวิ่งผ่านไฟเขียวพอดี และชนอย่างเต็มที่ทำให้นายอมรินทร์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำศพนายอมรินทร์ ผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร ก่อนจะมอบให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
/////////////