วันที่ 2 มิถุนายน 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ นายประทีป สมบูรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบึงพระ(เหรียญจั่นอนุสรณ์) นายยุทธ์ ไกรโชค ประธานชมรมสื่อมวลชนพิษณุโลก พร้อมด้วยที่ปรึกษา คณะกรรมการ และสมาชิก ชมรมฯ ได้นำข้าวสารอาหารแห้ง ยากรักษาโรค และเงินสดจำนวนหนึ่ง จากสถานีปันน้ำใจวัดราชบูรณะ เข้าช่วยเหลือครอบครัวของ นางสาววรรณภา กรทรัพย์ หรือน้องอั้ม อายุ 16 ปี ซึ่งต้องลาออกจากโรงเรียนกลางคัน ขณะที่กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อรักษาอาการของโรค SLE หรือโรคแพ้ภูมิตนเอง หรือที่รู้จักกันว่าโรคพุ่มพวง โดยมีนางสาวสุวนันท์ กรทรัพย์ หรือน้องอุ้ม พี่สาววัย 17 ปี ที่ลาออกจากโรงเรียนขณะกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อมาคอยเฝ้าดูแลน้องสาวอย่างใกล้ชิด ขณะที่ผู้เป็นแม่ คือ นางจันทร์ฉาย สังวาลแก้ว อายุ 43 ปี ผู้เป็นแม่มีอาชีพรับจ้างตัดผัก มีรายได้เพียงวันละ 100-200 บาท ขณะที่บางวันฝนตกก็ไม่สามารถทำงานได้ ต้องใช้ชีวิตอยู่ในห้องพักเล็กๆ ปลายไร่แปลงผักอย่างยากลำบาก ไม่มีบ้านพักอาศัยเป็นของตัวเอง
นางจันทร์ฉาย สังวาลแก้ว ผู้เป็นแม่ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนกับสามีแยกทางกันนานหลายปีแล้ว ตนต้องดูแลลูกสาว 2 คน คือน้องอั้ม วัย 16 ปี กับน้องอุ้ม วัย 17 ปีทั้งคู่เรียนอยู่ชั้น ม.3 โรงเรียนวัดบึงพระ ต่อมาเมื่อช่วง เดือนพฤศจิกายน 2558 น้องอั้ม ได้มีอาการปวดขาอย่างรุนแรง เดินไม่ได้ ผิวหนังบริเวณขาพุพอง ต้องเข้ารับการผ่าตัดขูดหนังบริเวณขาออก และตัดหนังกำพร้าบริเวณมาปิดแผลที่ขาไว้แทน ซึ่งทีมแพทย์ได้บอกว่าน้องอั้มป่วยเป็นโรค SLE หรือโรคแพ้ภูมิตนเอง หรือที่รู้จักกันว่าโรคพุ่มพวง ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด จึงต้องลาออกจากโรงเรียนกลางคัน ขณะที่กำลังเรียนอยู่เทอม 1 ของชั้น ม.3 แรกๆ แม่ทำงานไม่ได้ต้องคอยดูแลน้องอั้ม ทำให้ครอบครัวไม่มีเงินเลย จึงต้องตัดใจให้น้องอุ้ม พี่สาว ลาออกจากโรงเรียนขณะกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.3 เช่นกัน เพื่อมาคอยดูแลน้องสาว เพื่อที่แม่จะได้สามารถไปทำงานรับจ้าง พอมีเงินมาจุนเจือในครอบครัวบ้าง
นางจันทร์ฉาย สังวาลแก้ว เล่าต่ออีกว่า แต่ก่อนน้องอั้มจะช่วยหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว ด้วยวิธีออกไปรับจ้างร้องเพลง และเป็นแดนซ์เซอร์ ตามงานที่มีวงดนตรีทั่วไป ส่วนตนรับจ้างตัดผักมีรายได้เพียงวันละ 100-200 บาท ช่วงนี้ฝนตก ออกไปรับจ้างตัดผักไม่ได้ทำให้ขาดรายได้ เงินที่ได้มาก็ต้องใช้ดูแลเรื่องอาหารการกินของลูกๆ ทั้ง 2 คน ถึงแม้น้องอั้มจะใช้สิทธิในการรักษาบัตรทอง แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ทำแผล สัปดาห์ละประมาณ 300 บาท เพราะต้องทำแผลน้องอั้มทุกวัน โดยมีพี่สาวเป็นคนทำแผลให้ ส่วนบ้านที่อาศัยอยู่ก็เป็นเพิงเล็กๆ ปลายแปลงผัก ที่มาขออาศัยเขาอยู่ไม่มีบ้านหรือที่ดินเป็นของตัวเอง
นายประทีป สมบูรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบึงพระ(เหรียญจั่นอนุสรณ์) เปิดเผยว่า ด้านนายประทีป สมบูรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบึงพระ กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้สำรวจนักเรียนที่ลาออกกลางคัน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมาก โดยเฉพาะเคสของน้องอุ้มและน้องอั้ม ที่ตอนเห็นว่า น้องอุ้ม พี่สาวน้องอั้ม ทำไมต้องลาออกจากโรงเรียนกลางคัน ซึ่งเป็นห่วงอนาคตของน้องอุ้ม จึงได้มาสำรวจที่บ้านก็พบว่าต้องมาดูแลน้องอั้ม ซึ่งเป็นน้องสาว เรียนอยู่ห้องเดียวกัน ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้เข้ามาช่วยเหลือทางบ้านของน้องอุ้มและน้องอั้ม ซึ่งหากน้องอั้ม ที่ป่วยอยู่ในขณะนี้แล้วรักษาตัวจนหาย ก็จะให้ทางโรงเรียนเทียบโอนหน่วยกิตให้ไปเรียนการศึกษานอกเรียน อีกครั้ง อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนก็เห็นใจครอบครัวของน้องทั้ง 2 คน เป็นอย่างมาก จึงหาทุนในการช่วยเหลือครอบครัวจำนวนหนึ่ง
สำหรับผู้มีจิตศรัทธาต้องการให้ความช่วยครอบครัวของน้องอั้ม สามารถติดต่อได้ ทางหมายเลขโทรศัพท์ 097-1090287 หรือโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาโรงพยาบาลพุทธชินราช ชื่อบัญชี นางสาววรรณภา กรทรัพย์ เลขที่บัญชี 984-5-36956-1
…………………………………………………………………..