เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 พ.ค.2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้กรมป่าไม้ ได้จัดงานดีเดย์วันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ. 2559 โดยร่วมปลูกป่าแบบประชารัฐ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง หมู่ 11 บ้านแก่งไฮ ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก จำนวน 1,936 ไร่ โดยมี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธี
พร้อมด้วยคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พล.ต.ธนา จารุวัต รองแม่ทัพภาคที่ 3 นายฐานุพงศ์ เจริญสุรภิรมย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดพิษณุโลกให้การต้อนรับ และร่วมกันปลูกป่า
ทั้งนี้ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2532 กำหนดให้วันวิสาขบูชาซึ่งอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคมและเป็นระยะเวลาเริ่มต้นของฤดูฝนให้เป็น “วันต้นไม้ประจำปีของชาติ” ประกอบกับกรมป่าไม้ ได้มีผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลตามคำสั่งคณะความสงบแห่งชาติที่ 64 และที่ 66/2557 ในการสนธิกำลังทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ตำรวจปกครอง ทวงคืนป่าจากกลุ่มนายทุนและผู้มีอิทธิพลมาอย่างต่อเนื่อง โดยในจังหวัดพิษณุโลกได้ยึดคืนพื้นที่จากนายทุนจำนวน 3,707 ไร่ อยู่ในเขตอำเภอนครไทย จำนวน 1,936 ไร่ จึงได้ถือโอกาสนี้จัดงานวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกเพื่อเป็นนิมิตหมายที่ดีในการพลิกฟื้นพื้นป่าที่เสื่อมสภาพ ให้กลับมาเป็นป่าสมบูรณ์เป็นของขวัญให้แก่พีน้องประชาชน พร้อมชวนคนไทยร่วมกิจกรรมปลูกป่าแบบประชารัฐในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศอีกไม่น้อยกว่า 50,000 ไร่
นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้เป็นกิจกรรมปลูกป่าแบบประชารัฐ ได้รับความร่วมมือร่วมใจกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกเป็นอย่างดี ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ยึดคืนจากลุ่มนายทุนและผู้มีอิทธิพล ซึ่งนอกจากจะช่วยคืนความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ธรรมชาติแล้ว ยังพัฒนาให้เป็นพื้นที่เพื่อการเรียนรู้และนันทนาการสำหรับเยาวชน และประชาชนทั่วไป โดยกรมป่าไม้ได้เตรียมกล้าไม้เป็นไม้ท้องถิ่นเดิมในป่าธรรมชาติหลากหลายชนิด อาทิ ตะแบก แดง ยางนา ประดู่ พะยูง ปีป ตะเคียนทอง สำหรับการปลูกป่าในครั้งนี้จำนวน 14,000 ต้น
นอกจากนี้กรมป่าไม้ยังได้จัดกิจกรรมปลูกป่าแบบประชารัฐ ในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศอีกกว่า 50,000 ไร่ ในพื้นที่ที่ยึดคืนจากลุ่มนายทุน จึงขอเชิญชวนประชาชนทั่วไป ตลอดจนภาครัฐและเอกชน ร่วมกันปลูกต้นไม้ในพื้นที่พักอาศัย โรงเรียน หรือที่สาธารณประโยชน์ และสถานที่อื่นๆ เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยกรมป่าไม้เตรียมกล้าไม้จำนวน 11 ล้านกล้า หากผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอรับกล้าไม้ได้จากหน่วยงานเพาะชำกล้าไม้ของกรมป่าไม้ได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ขณะที่ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เมื่อทำการยึดพื้นที่ป่าคืนมาจากกลุ่มนายทุนและผู้บุกรุกแล้ว เราต้องป้องกันเพื่อไม่ให้มีผู้บุรุกป่าซ้ำอีก เพื่อให้ป่าได้ฟื้นฟูสภาพด้วยตัวเอง นอกจากนี้ก็จะเร่งทำฝายชะลอน้ำ เมื่อฝนตกพื้นที่จะได้ชุ่มชื้นเป็นป่าเปียก และปลูกต้นไม้เสริมเข้าไปอีก ส่วนการจัดโซนนิ่งพื้นที่ป่า ถ้านายทุนเข้ามามาบุกรุกจะต้องดำเนินการใช้กฎหมายเพื่อยึดพื้นที่คืน ส่วนพื้นที่ที่มีความจำเป็นที่ประชาชนเข้ามาอาศัยอยู่ เพราะไม่มีที่ทำกินก็ผ่อนผันให้เป็นพื้นที่ทำกินไปก่อน และจัดสรรพื้นที่ทำกินตามโครงการ คสช. ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้.