วันที่ 23 พฤษภาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปัจจุบันการเลี้ยงกระบือ หรือ ควายไทย ของประชาชนในเขตอำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก ยังมีอยู่จำนวนมาก เพราะเกษตรกรจะได้ประโยชน์หลายอย่าง นอกจากการขายเนื้อ ขายลูกควาย แล้ว ขี้ควาย ก็ยังสามารถขายได้ดี ทำให้มีรายได้สามารถเลี้ยงตัวเองได้เฉลี่ยวันละ 200-500 บาทเลยทีเดียว
นางบุญช่วย เร่ในไพร เกษตรกรที่ประกอบอาชีพทั้งทำนาและเลี้ยงสัตว์ อยู่บ้านเลขที่ 56/2 หมู่ 9 ตำบลบ้านไร่ อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ตนได้ซื้อควายมาจาก อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยเอามาเลี้ยงไว้จำนวน 45 ตัว วันหนึ่ง จะนำขี้ควาย ออกมาตากแดด อย่างน้อย 2 แดด จนแห้งสนิท ก็จะกวาดเก็บได้ 10 – 17 กระสอบต่อวัน โดยนำบรรจุใส่ถุงปุ๋ยเหลือใช้ ซึ่งจะมีคนมารับซื้อถึงที่บ้าน ขายในราคาส่ง ลูกละ 25 – 30 บาท เพื่อนำไปทำปุ๋ยอัดเม็ด หรือใส่สด ๆ หลังจากกระแสความนิยมใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพมาแรง ตั้งแต่เปิดประชาคมอาเซียน ที่มีการรับซื้อแต่พืชผลทางการเกษตรที่ปลอดจากการใช้สารเคมี
นางบุญช่วย กล่าวเพิ่มเติมว่า การเลี้ยงควายมีต้นทุนต่ำ เช้าขึ้นมาก็จะปล่อยให้ไปกินหญ้าที่ริมคลอง ไม่ต้องซื้ออาหารมาให้กิน เย็นมันจะเดินกลับเข้าคอกเอง มีญาติ ๆ คอยดูแลอยู่ห่าง ๆ ขณะที่ช่วงนี้เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว หญ้าอ่อน ๆ ก็มีมากขึ้น แต่เมื่อช่วงที่ประสบภัยแล้ง ตนก็ต้องไปหาซื้อฟางข้าวแห้ง มาให้ควายกินเสริม และยังมีปศุสัตว์อำเภอ มาดูแลอย่างใกล้ชิด คอยแนะนำ หากเกิดโรคระบาดขึ้น แต่ส่วนใหญ่ก็อยู่อย่างเรียบง่าย ขี้ควายที่ได้แต่ละวัน สร้างรายได้โดยรวมแล้ว อยู่ที่ประมาณ 200-500 บาท ต่อวัน ก็ถือว่าอยู่ได้อย่างพอเพียง และเมื่อครบกำหนดก็จะเริ่มแบ่งควายขาย พร้อม ๆ กับควายก็ตกลูกใหม่จำนวนมากทุกปี ซึ่งถือว่าเป็นการทดแทนกันกับที่ขายไป บางครั้งจะมีคนมาซื้อไปเพื่อไปเลี้ยงตามโครงการไถ่ชีวิตโคกระบือก็มาก ทำให้ชีวิตไม่ค่อยเดือดร้อน เพราะใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายตามแบบเศรษฐกิจพอเพียงจริง ๆ