องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับเทศบาลตำบลไทรย้อย ออกสำรวจถ้ำ อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อหาประสบการณ์ใหม่ให้ชีวิต พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวให้พิษณุโลก
นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก มอบหมายให้ นางสาวกมลชนก เหลืองทองนารา เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เดินทางพร้อม เจ้าหน้าที่ประชาชนสัมพันธ์ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ออกสำรวจถ้ำที่เขาผาหลวง หลังจากได้รับข่าวจากเทศบาลตำบลไทรย้อยว่าชาวบ้านพบถ้ำที่มีความงดงามทางธรรมชาติที่ยังไม่เคยมีใครได้เข้าชมมาก่อน เพื่อเป็นการส่งเสริม การท่องเที่ยวให้กับอำเภอเนินมะปราง และสร้างเศรษฐกิจให้กับคนพิษณุโลก 
จึงได้ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางดังกล่าวเพื่อนำมาประชาสัมพันธ์ต่อไป การเดินทางของเราในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการเดินทางที่ค่อนข้างทรหดอดทนมากๆ โดยเราเริ่มเดินทางออกจากอำเภอเมืองจนไปถึงเทศบาลตำบลไทรย้อย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ใช้ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร และจากเทศบาลตำบลไทรย้อยไปจนถึงเขาผาหลวงอีกประมาณ 10 กิโลเมตร โดยรถยนต์ มีเจ้าหน้าจากเทศบาลตำบลไทรย้อยนำทาง นั่นก็คือ นายสกล กันนะราช รองประธานสภาเทศบาลไทรย้อย นางสาวรัชปภา จันทร์กลิ่น นักพัฒนาชุมชน เทศบาลตำบลไทรย้อย พร้อมผู้ช่วยคนเก่ง นายสมหมาย สมสุข ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมนเทศบาลตำบลไทรย้อย นำทางเราไปค่ะ 
แต่เมื่อไปถึงตีนเขาเราก็ต้องเก็บสัมภาระต่างๆให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมตัวเดินเท้าเข้าถ้ำ คราวนี้เรามีผู้ร่วมเดินทางเพิ่มอีก 3 คน คือ คุณรัตนาภรณ์ กันนะราช นายจักรราช กันนะราช ภรรยาและลูกชายของ นายสกล กันนะราช รองประธานสภาฯ พร้อมลูกบ้านและทีมงานจาก อบจ.พิษณุโลก อีก 4 คน จากจุดเริ่มต้นบนถนนเล็กๆกลางทุ่งจนไปถึงปากถ้ำ เราใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 20 นาที เห็นจะได้ เมื่อเดินทางไปถึงปากถ้ำบอกเลยว่าถึงกับร้อง โอ้โห กันเลยทีเดียว เพราะเนื่องจากปากถ้ำแคบมาก แต่นั่นก็ไม่ทำให้ผู้ร่วมทางท้อถอยแต่อย่างใด
ถ้ำแรกที่เราได้เข้าไปสำรวจ เราตั้งชื่อถ้ำนี้ว่า “ถ้ำน้ำ” เพราะเนื่องจากเมื่ออดีตนั้นถ้ำนี้เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชาวบ้านที่นี่ เมื่อยามฤดูแล้ง ชาวบ้านจะนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำไปใช้ทางเกษตร แต่ในปีนี้ภัยแล้งเล่นงานชาวบ้านหนักมาก ถ้ำน้ำไม่มีน้ำเหลือให้ชาวบ้านได้ใช้เลยแม้แต่น้อย เมื่อชาวบ้านเดินเท้าสำรวจถ้ำเพื่อหาน้ำมาทำการเกษตรก็พบว่าถ้ำดังกล่าวมีความงดงาม เมื่อเข้าไปด้านในจะพบว่า อากาศภายในถ้ำนั้นเย็นสบายมากเลยทีเดียว 
อีกทั้งความงดงามของธรรมชาติที่สันสร้างขึ้นมา ด้วยหินงอก หินย้อย ความเป็นประกายเมื่อหินกระทบกับแสงไฟที่สาดส่อง มันเป็นภาพที่เหนือจินตนาการจริงๆ เราพักเหนื่อยอยู่ในถ้ำแรกนี้อยู่เพียงชั่วครู คุณสกล และภรรยา ได้บอกว่า “นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเรียกน้ำย่อยเท่านั้น เรายังมีไฮไลท์” ที่น่าทึ่งมากกว่านี้ ดิฉันบอกได้คำเดียวว่า “ไม่เหนื่อย และพร้อมจะก้าวเดินต่อเพื่อได้ชื่นชมความงดงามของธรรมชาติ” 
คุณสกล เล่าให้ฟังว่า คนแรกที่พบถ้ำนี้คือ หลวงตาเทียม พระธุดงค์ ที่ได้มาจำวัดอยู่ที่วัดผาหลวง และได้มรณภาพไปแล้ว ตำนานของถ้ำต่างที่หลวงตาเทียมได้เล่าต่อกันมากว่า 30 ปี จะยังคงเป็นตำนานต่อไป แต่ทะว่าไม่มีใครกล้าเข้าไปศึกษา จนมาถึงปัจจุบันตำนานไม่ได้เป็นเพียงแค่ตำนานอีกต่อไป กลุ่มคนเหล่านี้ได้พาเราไปชื่นชมความงดงาม และเก็บภาพมาฝากกัน
ถ้ำต่อไปที่เราได้เดินทางเข้าไปสำรวจกันนั้นคือ ถ้ำพญานาค และอีกหลายๆที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ ความงดงามของธรรมชาติในถ้ำนี้ มีหลากหลายมาก อาทิ โขดหิน ที่งอก ที่ย้อย ลงมาเป็นแนวคล้ายกับช่องกั้นบานประตูที่เขาพนมรุ่ง บางถ้ำก็โขดหินสลับซับซ้อนกันดูเหมือนอยู่ในยุคไดโนเสาร์ บ้างก็มีรอยของหินปูนคดเคี้ยวเหมือนทางเดินพญานาค นอกจากนี้ยังถ้ำและแนวหินงอกหินย้อยที่เป็นรูปต่างๆ ตามจินตนาการของแต่ละคนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น รูปปากสิงโต ปากโลมา กฎพระธุดงค์ ม่านน้ำ หินย้อยขนาดใหญ่ 4 คนโอบ มีรูปลักษณะคล้ายผลมะเฟือง และอื่นๆอีกมากมาย 
แต่ขณะนี้เราเดิน คลาน มุด สำรวจถ้ำกันอยู่นั้น สมาชิกของเราก็ได้หายไปทีละคนๆ เพราะเนื่องจากเส้นทางในการสำรวจมันช่างยากเย็นเหลือเกิน หากใครที่มีสุขภาพที่ไม่ดี มีโรคประจำตัว บอกเลยว่า ให้ท่านไปฟิตร่างกายมาก่อนเลยค่ะ เพราะถ้ำเหล่านี้เป็นถ้ำที่เป็นธรรมชาติจริงๆ ไม่มีการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรเพิ่มเติมเพื่อเกิดความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากชาวบ้านที่นี่ต้องการให้ธรรมชาติอยู่แบบนี้ไปนานๆ หากมีการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขึ้นมาชาวบ้านเกรงว่า ธรรมชาติจะถูกทำลายและเลือนหายไป เมื่อเดินทางไปได้ระยะหนึ่งทีมงานถึงกับอึ้งไปตามๆกัน เมื่อได้พบกับถ้ำทะลุ ที่สามารถมองเห็นฟ้าได้อย่างชัดเจน
หลังจากที่เราไม่ได้เห็นแสงอาทิตย์และต้นไม้มานานกว่า 1 ชั่วโมง มันคือความสดชื่นที่บอกไม่ถูกจริงๆว่ามันชื่นใจมากแค่ไหน เหมือนเราได้ชาร์ตแบตเตอร์รี่เพื่อพร้อมเดินทางต่ออีกครั้ง วันนี้เราได้เดินถ้ำนานกว่า 3 ชั่วโมง พร้อมกับความสุข แม้เนื้อตัวจะเต็มไปด้วยเหงื่อ มอมแมมไปด้วยดิน โคลน แต่เราก็มีความสุขที่ได้เดินทาง เนินมะปรางยังมีถ้ำให้เราได้เดินสำรวจอีกเยอะมาก เอาไว้เรามีเวลาเราจะพาทุกท่านไปสำรวจกันอีก วันนี้ต้องขอบคุณผู้นำทางและผู้ร่วมทางจากเทศบาลไทรย้อย และองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ทุกคนเป็นอย่างสูง หากท่านใดอยากจะไปเปิดโลกและหาประสบการณ์ใหม่กับเรา สามารถโทรมาได้ที่เบอร์ 081-0442628 คุณสกล กันนะราช // 055 906080 เทศบาลตำบลไทรย้อย 
…………….
รายงานโดย…ทีมงานประชาสัมพันธ์อบจ.พิษณุโลก
……………………………………………………………………..