วันที่ 3 พ.ค.2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสภาพอากาศร้อนและแล้งหนัก ส่งผลกระทบให้ผักหลายชนิด ไม่ออกผล ทำให้ขาดตลาด และมีราคาแพงสูงมาก โดยผู้สื่อข่าวได้ไปสำรวจตามแผงผักต่างๆ ในตลาดสดเทศบาล 6 ร่วมใจ เทศบาลนครพิษณุโลก พบว่า มีผักหลายชนิดที่ไม่มีขายตามแผง เนื่องจากขาดตลาด โดยเฉพาะถั่วฝักยาว ผักชี ที่หลายร้านไม่มีวางขายเลย
นางสมควร บุญมาก แม่ค้าขายผักในตลาดสดร่วมใจ กล่าวว่า หลังจากอากาศร้อนหนักตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ที่ผ่านมา พบว่า ผักหลายชนิดได้รับผลกระทบ ไม่ออกผลผลิต และบางอย่างก็เสียหาย โดยเฉพาะถั่วฝักยาว ที่ไม่น่าเชื่อว่าแพงมากในรอบหลายปี จากเดิมราคาเพียง 20-30 บาทต่อ กิโลกรัม แต่เพียงเดือนเดียว ราคาปรับสูงถึง 120-150 บาท ต่อกิโลกรัม ขึ้นอยู่สภาพผลผลิตด้วย ทำให้แม่ค้าไม่กล้า หาซื้อมาวางขาย เพราะว่าสงสารผู้บริโภค โดยเฉพาะแม่ค้าส้มตำ ที่ ณ วันนี้ไม่กล้าซื้อไปทำถั่วปูปลาร้า ขายให้กับลูกค้า เนื่องจากแพงมาก
ขณะที่เจ๊คิ้ม เจ้าของแผงผักอีกราย กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ผักเกือบทุกชนิดแพงเกิน เนื่องจากสภาพอากาศร้อนและแล้ง ทำให้ ดอกและผลไม่ออกตามที่ต้องการ เดิมทีตนจะรับถั่วฝักยาวมาขายวันหนึ่งหลาย 10 กิโลกรัม แต่วันนี้ต้องพยายามหาถั่วฝักยาวมาขายเพียงไม่ถึงกิโลกรัมต่อวันเนื่องจากหายาก และต้องขายแบบแบ่ง เป็นขีด ๆเพื่อให้ลูกค้าซื้อได้ นอกจากนี้ผักอีกรายชนิดที่แพงตามถั่วฝักยาว คือ ผักชี จากเดิมราคา ก.ก. 30 บาท ปรับเป็น 120 บาท มะเขือ จากเดิม ก.ก.ละ 20 บาท เป็น 80 บาท ต้นหอม จากเดิม ก.ก. ละ 30 บาท ปรับขึ้นเป็น 80 บาท ผักกาด จากเดิม 20 บาท ปรับเป็น 80 บาท แตงกาว จากเดิม 10 บาท ปรับขึ้นเป็น 18 บาท กระเพรา จากเดิมกรัมละ 3-5 บาท ขึ้นเป็น 12 บาท ซึ่งหลังจากราคาผักแพงขึ้นทำให้ผู้บริโภคต้องเลือกซื้อผักที่ต้องการแต่ละชนิดที่น้อยลง
/////////////////////