นางสาวปัญจพาณ์ หาระชอน อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/119 พระร่วง ซอย 5 ถนนจ่านกร้อง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนเป็นคนชอบทำอาหารประเภทต่าง ๆ เช่น ยำ เมี่ยงปลาเผา ปลาหมึกย่าง หมูย่าง แล้วโพสต์โชว์ความน่ากินของอาหารขึ้นเฟสบุ๊ก ทำให้เพื่อนๆ ในเฟสที่ติดตามต่างชื่นชอบและขอให้ทำขายให้กินบ้าง ตนจึงเห็นว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้จึงได้เปิดออร์เดอร์ แล้วทำอาหารประเภทต่าง ๆ ตามวัตถุดิบที่มีในแต่ละฤดู สลับหมุนเวียนกันไป ส่งให้ถึงบ้าน โดยเฉพาะในฤดูร้อนเดือนเมษายน จะมีมะม่วงชนิดหนึ่งที่สามารถทำของกินเล่นแบบพื้นบ้านได้ นั่นคือ มะม่วงกะล่อน ซึ่งในเดือนเมษายนของทุกปีตนจะทำมะม่วงกะล่อนตากออกขายทางเฟสบุ๊ก เป็นของอร่อยที่สามารถหากินได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น
โดยขั้นตอนการทำ เมื่อได้มะม่วงกะล่อน ไม่ว่าจะเป็นมะม่วงกะล่อนทองซึ่งลูกจะโตขนาดเท่ากำปั้นเด็ก หรือมะม่วงกะล่อนตาลที่มีขนาดเล็กกว่า แต่มีกลิ่นหอมและมีรสชาติหวานเป็นเอกลักษณ์เหมือนกัน มาแล้ว จะคัดเลือกเอาเฉพาะลูกที่ดี ไม่เน่า มาล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งให้แห้ง จากนั้นนำมาปอกเปลือกออกบางส่วน ให้เหลือเปลือกสีเขียวๆ เป็นช่วงๆ ปาดให้ชิดเมล็ดให้ได้เนื้อมะม่วงขนาดใหญ่ประมาณ 2 นิ้ว แช่น้ำเกลือไว้สักครู่ใหญ่จากนั้นนำขึ้นให้สะเด็ดน้ำ แล้วเรียงในถาดอลูมิเนียมโดยหงายส่วนที่เป็นเนื้อขึ้น เพื่อให้รับแสงแดดได้โดยตรง จากนั้นนำไปตากแดดใช้เวลาประมาณ 2 วัน ส่วนที่หงายก็จะเริ่มแห้ง นำมากลับด้านผิวขึ้นตากแดดอีก 1 วัน ก็จะได้มะม่วงกะล่อนตากที่มีรสชาติอร่อย หวานธรรมชาติ โดยไม่ต้องใส่น้ำตาล เคี้ยวนุ่มหนึบและได้กลิ่นหอมอ่อนๆ เทคนิคของตนคือ จะหั่นชิ้นใหญ่เพราะเมื่อเวลาแห้งจะได้ชิ้นพอดีเคี้ยวเนื้อเต็มฟัน มะม่วงประมาณ 10 กิโลกรัมเมื่อนำมาแปรรูปเป็นมะม่วงกะล่อนแล้วจะได้มะม่วงกะล่อนตากประมาณ 2 .5 กิโลกรัมเท่านั้น
หลายปีที่ผ่านมามะม่วงกะล่อนที่เป็นวัตถุดิบหาหาซื้อได้ง่ายมาก แต่สำหรับปีนี้อากาศร้อนผิดปกติ มะม่วงกะล่อนไม่ติดผล ทำให้ในท้องตลาดแทบไม่มีมะม่วง ที่มีก็ราคาแพงมาก ไม่คุ้มหากนำมาแปรรูป ตนต้องออกเสาะหามะม่วงกะล่อนไปตามที่ต่างๆ โดยมีเพื่อนในเฟสให้เบาะแสว่าที่ไหนมีมะม่วงกะล่อนบ้าง แล้วไปขอเหมาต้นกับเจ้าของ แต่ก็ได้ไม่มากนัก ไม่พอสำหรับยอดจองที่เพื่อนๆ ในเฟสเข้ามาจองกันหลายร้อยกิโลกรัม โดยในปีนี้เนื่องจากมะม่วงหายากตนจึงต้องขึ้นราคามะม่วงกะล่อนตาก จากกิโลกรัมละ 250 บาท เป็น 400 บาท และนำมะม่วงน้ำดอกไม้ ซึ่งพอจะมีอยู่ในท้องตลาดมาดัดแปลงตากขาย ซึ่งก็ได้รับความนิยมจากลูกค้า เนื่องจากมีรสชาติดีและมีกลิ่นเฉพาะตัว แต่ก็สู้มะม่วงกะล่อนตากที่มียอดจองสูงกว่าไม่ได้ ตนคิดว่าหากในปีถัดไปอากาศยังร้อนขนาดนี้อีก มะม่วงกะล่อนคงไม่ออกลูกอีกแน่นอน และของกินเล่นแสนอร่อยอย่างมะม่วงกะล่อนตากอาจเป็นแค่ตำนาน
สำหรับมะม่วงกะล่อน บางท้องที่อาจจะเรียกว่ามะม่วงป่า มะม่วงเทียน มะม่วงขี้ไต หรือมะม่วงเทพรส ลักษณะลำต้นก็เหมือนกับมะม่วงทั่วไป แต่มะม่วงกะล่อนมักจะขึ้นเองตามธรรมชาติ ตามหัวไร่ปลายนา มีรสชาติ อันเป็น เอกลักษณ์เฉพาะตัวมีขนาดผลไม่ใหญ่นัก มียางค่อนข้างมาก ตอนดิบมีรสเปรี้ยวจี๊ด พอสุกรสชาติจะหวานแหลม และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ในอดีตเป็นไม้ผลที่ไม่มีราคา แต่เนื้อไม้สามารถทำสิ่งปลูกสร้างได้ ในปัจจุบันจึงมักถูกโค่นเป็นไม้แปรรูป
นางสาวปัญจพาณ์ กล่าวต่อว่า และต้นมะม่วงกะล่อน ในปัจจุบันมักถูกโค่นเพื่อปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้แทน ทำให้เหลือน้อยยิ่งขึ้น บิดาตนเห็นคุณค่าอยากอนุรักษ์ไว้ จึงนำเม็ดที่ปอกเนื้อออกแล้ว นำมาเพาะชำ ปลูกไว้จำนวนมาก หากใครต้องการเพื่อนำไปปลูกสามารถติดต่อมาหาตนได้ทางโทรศัพท์หมายเลข 094-6359265
……………………………………………………………………………………………..