เวลา 14.00 น. วันที่ 18 เม.ย. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองร้อยทหารม้าลาดตระเวนไกล กองพลทหารราบที่ 4 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมืองพิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารตั้งจุดแสดงตัวเพื่อขอคืนรถที่ถูกยึดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านี้ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองทำการตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ตามถนนเส้นต่างๆ ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก และถนนสายรอง สามารถตรวจยึดรถตามมาตรการเมาไม่ขับได้จำนวน 69 คัน เป็นรถยนต์ 34 คัน รถจักรยานยนต์ 35 คัน โดยวันนี้มีประชาชนทยอยเดินทางนำเอกสารและหลักฐานแสดงตนเป็นเจ้าของรถ เพื่อมาติดต่อขอรับรถคืนหลังจากหมดช่วงเทศกาลสงกรานต์ใน 7 วัน คือ วันที่ 18 – 25 เม.ย. ซึ่งผู้ที่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทุกคน จะต้องเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาการเมาแล้วขับ สาเหตุและโทษภัยของการขับขี่พาหนะโดยมีพฤติกรรมเมาสุรา เป็นเวลา 2 ชั่วโมง โดยมี ร.ต.ท.วันชัย ฝึกหัด รอง สว.จร.สภ.เมืองพิษณุโลก เป็นวิทยากรในการบรรยายให้กับผู้ที่เมาแล้วขับ เมื่อฝึกอบรมเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ประชาชนไปพบกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อมอบเอกสารและหลักฐานก่อนรับกุญแจรถคืน และให้ไปรับรถคืนที่กองพลทหารราบที่ 4 ค่ายสมเด็จนเรศวรมหาราช
สำหรับบรรยากาศทั่วไปเป็นด้วยความเรียบร้อยเป็นอย่างดี มีประชาชนทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่องเพื่อติดต่อขอรับรถคืน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบเอกสารที่แสดงความเป็นเจ้าของรถ เพื่อป้องกันความผิดพลาด ส่วนประชาชนที่มารับรถแทนเจ้าของรถ จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจและหลักฐานที่แสดงอย่างชัดเจน จากนั้นหากเอกสารเรียบร้อยแล้วก็จะได้รับกุญแจรถคืน และนำไปรับรถที่โรงจัดเก็บที่กองพลทหารราบที่ 4
โดยประชาชนที่มารับรถคืนวันนี้หลายคนต่างบอกว่า รู้สึกพึงพอใจตามมาตรการดังกล่าว เพราะทำให้ช่วยลดอุบัติเหตุลงได้ แต่บางคนไม่สะดวกเนื่องจากต้องการใช้รถในช่วงเทศกาล ถ้าหากคิดจะดื่มสังสรรค์กับเพื่อนฝูงหรือครอบครัวในปีหน้า หรือเทศกาลอื่นๆ ขอนั่งดื่มอยู่ที่บ้านดีกว่า จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลามารอรับรถที่ถูกยึดเป็นเวลานานหลาย มิหนำซ้ำยังต้องเสียค่าปรับและส่งฟ้องศาลเป็นคดีความเสียประวัติอีกด้วย ส่วนปัญหาที่พบในวันนี้คือรถยนต์หลายคันที่จอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน ทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดยาก หรือสตาร์ทไม่ติดเลย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทหารที่คอยมาดูแลอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนจึงได้ให้ความช่วยเหลือ โดยนำแบตเตอรี่สำรองมาต่อพ่วงสายไฟเพื่อเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ จึงสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ติดตามปกติ ก่อนพากันขับรถเดินทางกลับภูมิลำเนาของตัวเองด้วยสีหน้ายิ้มแย้มดีใจ และสัญญาว่าจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์จนเมาแล้วขับรถอีกแล้ว.
…………………………………………………………………………………………………………