จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ล่าติดตาม จนสามารถจับกุมนายสน หุมเพียง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 8 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ผู้ต้องที่ลงมือก่อเหตุฆ่ารัดคอน้องพิ้งค์วัย 14 ปี เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา โดยจับได้ในป่าภายในหุบเขา ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3-4 กิโลเมตร จึงได้ควบคุมตัวไปที่ สภ.นครไทย ทันที โดยมีกลุ่มชาวบ้านจำนวนมากเข้ามาล้อมกดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะขอดูตัว และสาปแช่งผู้ต้อง แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้กันกลุ่มชาวบ้านเอาไว้ ก่อนพาขึ้นรถตู้ตำรวจ นำตัวเข้าไปทำการแถลงข่าว ในตัวจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏว่ากลุ่มชาวบ้านที่มารออยู่เต็มหน้าสถานีตำรวจ ได้ฮือเข้าทำร้ายผู้ต้อง จนเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวาย โดยเจ้าหน้าที่พยายามป้องกันเอาไว้ จนสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้
ต่อมาทางทางพ่อแม่และญาติของ ด.ญ.ผู้เสียชีวิต ได้ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหามาขมาศพผู้เสียชีวิตที่บ้าน หากไม่มาขอขมาศพจะไม่การเผาศพในวันเสาร์ที่ 9 เม.ย. จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทำพิธีกราบขอขมาต่อหน้ารูป ด.ญ.ผู้เสีย ที่ห้องประชุม สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 8 เมษายน เพื่อลดกระแสความกดดันของญาติ ตามคำเรียกร้อง แต่ไม่สามารถพาผู้ต้องหาไปขมาศพที่บ้านได้ตามประสงค์
วันที่ 9 เม.ย. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 8 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นที่ตั้งสวดศพ ด.ญ.สราเพ็ญ ศรีคาน หรือ น้องพิ้งค์ อายุ 14 ปี เหยื่อฆาตกรที่ลงมือข่มขืนฆ่าภายในบ้านพัก ทางพ่อแม่และญาติได้ประกอบพิธีทางทางศาสนา เพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้กับ ด.ญ. 14 ปี บรรยากาศยังคงเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ
นายเรืองฤทธิ์ ศรีคาน อายุ 57 ปี บิดาของน้องวัย 14 ปี ที่เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเสียใจไม่ทราบและรู้เรื่องดังกล่าว หลังทราบข่าวจากสื่อ ที่ผู้ต้องหาขอขมาศพลูกสาว เหมือนกับการจัดฉาก ตนและครอบตลอดทั้งญาติไม่ได้รับการติดต่อหรือบอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยว่าจะให้ผู้ต้องหาทำพิธีกราบขอขมาศพที่รูปภาพ และถ้าจะให้ตนมาร่วมด้วยคงไม่มา ตนอยากจะให้พาตัวมาขอขมาศพอยู่ที่บ้าน ส่วนคดีไม่อยากให้จำคุกตลอดชีวิต ซึ่งต่อไปจะรับโทษจำคุกไม่กี่ปีก็ออกมา อยากจะให้ประหารชีวิตตายตามกัน วันนี้ตนต้องประกอบพิธีเผาศพ เพราะได้กำหนดบอกญาติไว้หมดแล้ว ส่วนจะนายตำรวจมีใครมาร่วมหรือไม่ยังไม่แน่ใจ เพราะไม่รับการติดต่อ