เวลา 16.00 น. วันที่ 6 เมษายน 2559 ที่สภ.นครไทย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก หลังจากจนท.ตำรวจสามารถติดตามจับกุมนายสน หุมเพียง อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาฆ่าน้องพิงค์ได้บริเวณเชิงเขาหลังหมู่บ้าน ม.8 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย จ.พิษณุโลกและคุมตัวมาสอบสวนที่สภ.นครไทย ทำให้ชาวบ้านจำนวนกว่า 100 คนติดตามมาเพื่อจะดูตัวผู้ต้องหา
จากการจับกุมผู้ต้องหารายนี้ เจ้าหน้าที่ได้ไปพบตัวคนร้า ยในสภาพอิดโรยหมดเรี่ยวหมดแรง สวมเสื้อคลุมลายพรางทหาร นุ่งกางเกงขายาวสีดำ หลบซ่อนตัวอยู่ในไร่ข้าวโพด ซึ่งเป็นไร่ของพ่อผู้เสียชีวิตเอง มิหนำซ้ำคนร้ายยังเคยทำงานรับจ้างดูแลไร่ข้าวโพดให้อีกด้วย ซึ่งคนร้ายยินยอมมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัวนำลงมาจากเขา แต่ระหว่างทางมีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมารอมุงดูโฉมหน้าคนร้ายรายนี้ จนเกือบถูกชาวบ้านและญาติของผู้เสียชีวิตที่ยังอยู่ในอารมณ์โกรธแค้นอยู่เข้ามารุมประชาทัณฑ์ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำผู้ต้องหาออกจากพื้นที่ทันที ก่อนนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.นครไทย เบื้องต้นนายสน หุมเพียง อายุ 45 ปี ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่ารัดคอผู้เสียชีวิตจริง แต่ยังไม่ยอมรับว่ากระทำชำเลา
และจากสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ได้เข้าไปขอยืมที่ชาร์ตแบตเตอรี่ในบ้านพักของผู้เสียชีวิต และไปพบน้องพิ้งค์นอนอยู่ในบ้าน กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่ น้องพิงค์ก็บอกให้ไปหยิบได้เลย แต่ระหว่างนั้น นายสนสังเกตเห็นน้องพิงค์นุ่งกางเกงขาสั้น จึงเกิดอารมณ์ จึงได้เดินออกไปหยิบเชือกจากนอกบ้านและเข้ามารัดคอเหยื่อ และเหยื่อก็ขาดใจก่อนที่จะลงมือกระทำชำเลา
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้แพทย์มาตรวจร่างกายของผู้ต้องหา และเก็บดีเอ็นเอจากตัวผู้ต้องหา จากกระพุ้งแก้ม เส้นผม เล็บ เพื่อเป็นหลักฐานมัดตัว
จากนั้นเวลาประมาณ 17.00 น. จนท.ตำรวจ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาลงจากสภ.นครไทย เพื่อจะขึ้นรถตู้นำไปที่ภ.จว.พิษณุโลกเพื่อแถลงข่าว ในเวลา 19.00 น. ที่ภ.จว.พิษณุโลก ขณะที่ชาวบ้านมาดักรอร่วม 100 คน พยายามเข้ามารุมทำร้ายผู้ต้องหา พร้อมตะโกนสาปแช่ง ด้วยอารมณ์โกรธแค้น
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ ตามคำให้การของผู้ต้องหา ว่าได้นำอาวุธปืน และ คอมพิวเตอร์โน๊คบุ๊คของผู้เสียชีวิตไปซ่อนไว้ ใกล้กับจุดที่หลบซ่อนตัว ก็พบของกลางจริง เป็นอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ และ โน๊ตบุ๊ค ส่วนเชือกที่ใช้ก่อเหตุรัดคอยังหาไม่พบ
…………………………………………………