วันที่ 31 มีนาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดราชบูรณะ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ทางพระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ และ นางจิรารัตน์ มีงาม ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานพิษณุโลก ได้ร่วมกันตรวจสอบบ่อน้ำโบราณ อายุมากกว่า 208 ปี ทั้งนี้เพื่อทำการลุบ่อน้ำโบราณให้สามารถนำน้ำออกใช้ในช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้ ให้นักท่องเที่ยวและประชาชนนำน้ำภายในบ่อน้ำโบราณมาใช้ในการละเล่นอย่างประหยัด โดยในวันนี้ได้มีช่างจากเทศบาลนครพิษณุโลกมาร่วมกันกับทางวัดเริ่มทำการลุบ่อน้ำ เบื้องต้นได้นำรถน้ำมาทำความสะอาดรอบบ่อก่อนที่จะน้ำที่ขังอยู่สูบออกและทำการเติมน้ำให้สามารถนำมาใช้เล่นสงกรานต์ได้ สำหรับบ่อดังกล่าวมีความลึกประมาณ 10 เมตร มีน้ำขังอยู่ 6 เมตร โดยมีตาน้ำอยู่ภายในบ่อ
พระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ กล่าวว่า การทำการลุบ่อน้ำโบราณครั้งนี้เพื่อส่งเสริมเรื่องการละเล่นสงกรานต์อย่างประหยัดและเป็นการสืบสานประเพณีโบราณในการละเล่นสาดน้ำที่ประชาชนเดินทางมาทำบุญที่วัดและมีการละเล่นสาดน้ำอย่างถูกวิธี สำหรับบ่อน้ำดังกล่าวอยู่คู่กับวัดราชบูรณะโบราณมาช้านานการได้นำน้ำดังกล่าวมาใช้ถือเป็นสิริมงคลจึงได้ ปรึกษากับทาง ททท.สำนักงานพิษณุโลก และ เทศบาลนครพิษณุโลก ที่จะทำการลุบ่อดังกล่าว
นางจิรารัตน์ มีงาม ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานพิษณุโลก กล่าวว่า สำหรับปีนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสนับสนุนการละเล่นสงกรานต์อย่างถูกต้องตามประเพณี การสาดน้ำแบบดีงาม และเล่นน้ำอย่างประหยัด ดังนั้นการส่งเสริมการใช้น้ำจากบ่อน้ำโบราณถือเป็นวิธีหนึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากน้ำที่มีอยู่เดิม อีกทั้งน้ำดังกล่าวถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์และสะอาด เป็นการบูรณาการนำสิ่งที่มีอยู่ในวัดมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ส่วนเรื่องภัยแล้งในปีนี้อาจมีผลกระทบกับนักท่องเที่ยวบ้างแต่แค่บางแห่งที่เล่นสาดน้ำ แต่อย่างไรจำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวคงไม่กระทบมากนักเพราะที่ผ่านมาทาง ททท.ส่งเสริมการท่องเที่ยวสงกรานต์อย่างถูกต้องตามประเพณีและประหยัดจึงไม่น่าจะเกิดปัญหา ส่วนชาวต่างชาติที่ยังนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกยังเป็น นักท่องเที่ยวจากประเทศแถบยุโรปและประเทศจีนบ้าง
สำหรับ บ่อน้ำโบราณ สันนิษฐานว่ามีอายุมากกว่า 208 ปี เพราะว่าเมื่อปี พ.ศ.2351 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ครั้งอายุได้ 21 ปี สมเด็จพระลูกยาเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงอดิศร สุนทร พระ บรมโอรสาธิราช ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงรับภาระบรรพชาเป็นนาคหลวง โดยให้มาบวชที่วัดตะไกร จ.พิษณุโลก ซึ่งโยมแม่และญาติมีภูมิลำเนาอยู่ที่นี่ ก่อนไปประจำอยู่กับพระสังฆราชวัดมหาธาตุ ก็พบว่ามีบ่อน้ำโบราณแห่งนี้อยู่แล้ว ซึ่งเดิมทีวัดตะไกรก็คือวัดราชบูรณะและวัดนางวัดพญาที่มีประวัติในตำนานว่าเป็นวัดเดียวกัน เรียกว่าวัดตะไกร ต่อมาได้มีการสร้างถนนมิตรภาพตัดผ่านกลางวัดจึงแยกออกเป็นวัดนางพญาและวัดราชบูรณะ โดยบ่อน้ำโบราณนี้อยู่ในส่วนของวัดราชบูรณะเนื่องจากอยู่ใกล้กับอุโบสถเมื่อครั้งเป็นวัดตะไกรเป็นบ่อศิลาแลง ซึ่งคาดว่าจะมีการขุดบ่อพร้อมกับการก่อสร้างวัด