เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 มี.ค. 2559 พ.ต.ท.บุญทิ้ง อินทุภูติ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.พรหมพิราม รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุ 191 บก.ภ.จ.พิษณุโลก ว่ามีเหตุรถยนต์ตกร่องเกาะกลางถนนชนกับตอไม้ขนาดใหญ่ทำให้มีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในรถหลายราย บริเวณถนนสายพิษณุโลก – อุตรดิตถ์ ขาเข้าเมืองพิษณุโลก ระหว่างหลัก กม.ที่ 263 – 264 หมู่ 2 บ้านศรีเจริญ ต.ทับยายเชียง อ.พรหมพิราม จึงประสานสมาคมกู้ภัยข่าวภาพพิษณุโลกนำอุปกรณ์ตัดถ่างไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บพร้อมกับแพทย์โรงพยาบาลวัดโบสถ์ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีดำ ทะเบียน กข 9025 อุตรดิตถ์ ตกอยู่ในร่องเกาะกลางถนนอัดก๊อปปี้ติดคาอยู่กับตอไม้ขนาดใหญ่สภาพพังยับเยินทั้งคัน
นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บติดภายในอยู่จำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งช่วยเหลือนำออกมาจากรถได้ 2 ราย เป็นผู้หญิงนั่งคู่กับคนขับ และเด็กชาย 1 ราย ที่นั่งอยู่บริเวณเบาะหลัง อาการสาหัสทั้งคู่ ทราบชื่อต่อมาคือ นางปรานอม พ่วงบางโพ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/2 หมู่ 1 ต.ป่าเซ่า อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ และ ด.ช.ธนภัทรนนท์ วงศ์พุ่ม อายุ 2 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่ 8 ต.ป่าเซ่า อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งรักษาตัวต่อที่ รพ.วัดโบสถ์ ซึ่งนางปรานอมทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน ด.ช.ธนภัทรนนท์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช สุดท้ายทางแพทย์สุดจะยื้อชีวิตได้สิ้นใจอีกราย
นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังมีผู้เสียชีวิตติดอยู่คาซากรถ ภายห้องโดยสารในที่เบาะนั่งฝั่งคนขับ ทราบชื่อคือ นางเสมอ วงศ์พุ่ม อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 125 หมู่ 8 ต.ป่าเซ่า อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นย่าของ ด.ช.ธนภัทรนนท์ มีบาดแผลฉีกขาดฉกรรจ์ที่ใบหน้าเสียชีวิตคาที่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างช่วยกันงัดนำร่างออกมาชันสูตรข้างนอกรถ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถยนต์คันดังกล่าวกำลังมุ่งหน้าเข้าตัว อ.วัดโบสถ์ คาดว่านางเสมอที่ขับรถมาน่าจะเกิดอาการหลับใน เพราะเป็นเส้นทางตรงหลายกิโลเมตร จึงอาจอ่อนเพลียเนื่องจากเดินทางไกล ทำให้รถเสียหลักตกร่องเกาะกลางถนนไปชนกับตอไม้ขนาดใหญ่อย่างแรง เป็นเหตุให้ตนเองเสียชีวิต ส่วนหลานชายและญาตินั่งโดยสารมาด้วยได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลดังกล่าว เนื่องจากตำรวจไม่พบร่องรอยการเบรกรถก่อนถึงจุดเกิดเหตุแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
…………………………………………………………………………………………………….