วันที่ 18 มี.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก กำลังประสบปัญหาภัยแล้ง และต้องปรับเปลี่ยนจากการทำนาหันมาปลูกแตงโม แต่ก็ต้องอึดอัดใจเมื่อผลผลิตไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ ผลผลิตเล็ก บิดเบี้ยว อากาศที่ร้อนจัดยังทำให้ใบไหม้แห้งเหี่ยว ซ้ำร้ายยังเจอโรคเพลี้ยระบาดหนัก โดยนางนงลักษณ์ อยู่นาน อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 486/2 หมู่ 8 ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เป็นหนึ่งในชาวนาที่ได้ปรับเปลี่ยนจากการทำนาปลูกข้าว หันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อยประเภทแตงโม เพราะมองว่าเป็นพืชที่ทนแล้งได้ดี แต่ปรากฏว่าสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้แตงโมได้รับความเสียหาย ผลผลิตมีขนาดเล็ก ลูกเบี้ยวไม่กลม อีกทั้งยังประสบปัญหาโรคเพลี้ยระบาดซ้ำ จนเริ่มเกิดความท้อแท้ ไม่รู้จะทำอะไรให้มีรายได้ดีขึ้น
นางนงลักษณ์ กล่าวว่า ได้ปรับเปลี่ยนมาปลูกแตงโมเพราะเป็นพืชอายุสั้น ที่เชื่อว่าจะมีรายได้ดี เพราะก่อนปรับเปลี่ยนสูบน้ำเข้าที่นา น้ำที่สูบลงไปแห้งหายไปอย่างรวดเร็ว เพราะอากาศที่ร้อนมากกว่าทุกปี อีกทั้งแหล่งน้ำที่มีปริมาณจำกัด จึงทดลองปลูกพืชตระกูลแตงโมใช้น้ำน้อย 3-4 วันรดน้ำครั้ง หวังมีรายได้ช่วงแล้งนี้บ้าง แต่เมื่อลงมือปลูกผลผลิตที่ออกมากลับไม่ได้ตามใจที่คิดไว้ เนื่องจากปีนี้สภาพอากาศร้อนมาก จนส่งผลทำให้ใบแตงโมไหม้ ยอดเหี่ยวแห้ง และมีเพลี้ยระบาด ผลแตงโมเบี้ยวไม่สวยงาม ขณะที่น้ำหนักแตงโมปกติทั่วไปหนึ่งผลต้องมีน้ำหนัก 3-4 กิโลกรัม แต่ของแปลงที่ตนปลูกลูกเล็กไม่ถึง 1 กิโลกรัม ทำให้ขายไม่ได้ราคา ต้องเหมาขายให้พ่อค้าแม่ค้าลูกละ 5-10 บาท ส่วนแตงโมผลใหญ่สวยชั่งขายเป็นกิโลกรัมๆละ 15-18 บาท
อย่างไรก็ตาม ชาวนา จ.พิษณุโลก คงต้องดิ้นรนใช้พื้นที่ทำประโยชน์ให้ได้มากที่สุด การจะกลับไปทำนาปลูกข้าวต้องรอจังหวะช่วงที่มีน้ำมาก แต่หากสถานการณ์น้ำน้อยไม่เพียงพอ ก็จะไม่กล้าเสี่ยงทำไม่คุ้มค่ากับการลงทุน อีกทั้งราคาข้าวก็ไม่ดีมาก ช่วงนี้ทำให้ชาวนาก็รู้สึกท้อบ้าง แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไรให้มีรายได้ ช่วงนี้ก็ต้องทนหมุนเวียนปลูกพืชอายุสั้นไปก่อน เพื่อให้มีรายได้มาดูแลจุนเจือครอบครัวบ้างเท่านั้น.
……………………………………………………………………………………….