ปัญหาภัยแล้งส่งผลกระทบทุกพื้นที่ใน จ.พิษณุโลก เกษตรกรในพื้นที่ อ.พรหมพิราม จำเป็นต้องงดการทำนาปรัง หลังชลประทานไม่ส่งน้ำตามนโยบายรัฐบาล หันมารวมกลุ่มปลูกพืชผักสวนครัว โดยแบ่งปันน้ำจากบ่อบาดาลร่วมกันใช้ รายได้ดีเพียงพอต่อการดำรงชีพ นางกิมไฮ คงคำ อายุ 65 ปี บ้านไผ่ขอน้ำ ตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เป็นหนึ่งในกลุ่มในชาวบ้าน จำนวน 15 ราย ที่เข้าร่วมกันทำแปลงเกษตรปลอดสารพิษ ในพื้นที่สาธารณะประโยชน์กว่า 20 ไร่ ที่ทางองค์การบริหารส่วนตำบลมะตูม ได้จัดสรรให้ประชาชนเข้าใช้ประโยชน์ในช่วงฤดูแล้ง ที่ต้องงดการทำนาปรังตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากน้ำต้นทุนมีน้อยและทางระบบชลประทานงดส่งน้ำ เผื่อให้มีรายได้ในช่วงฤดูแล้งนี้
นางกิมไฮ เล่าว่า “พื้นที่แปลงเกษตร จำนวนประมาณ 18 ไร่นี้ ได้มีการแบ่งพื้นที่กันตามกำลังของแต่ละคน ๆ ละ 2 งาน บ้าง 3 งานบ้าง ส่วนใหญ่ ปลูกบล็อคคอรี่ กระหล่ำปลี คะน้าฮ่องเต้ มะเขือปู่ ผักบุ้งจีน มะเขือแดง แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน ส่วนน้ำที่ใช้รดแปลงผัก ก็ใช้น้ำจากบ่อบาดาล สูบขึ้นแท็งค์ไว้ ตอนเช้า-เย็น ก็จะมารดน้ำกัน ส่วนค่าน้ำก็แปลงใครแปลงมัน ใคร มีหลายแปลงก็เสียมาก รายได้จากการปลูกก็ดีมาก คนทำมากก็ได้มาก ได้วันละ 100 กว่าบาท บางคน 200 – 300 อย่างแปลงดอกดาวเรือง ในช่วงเทศกาล ขายได้วันละกว่าพันบาทเลยนะ” 
สำหรับพื้นที่สาธารณะประโยชน์ดังกล่าว มีพื้นที่มากกว่า 50 ไร่ แบ่งจัดสรรให้กับประชาชนในพื้นที่เข้าไปใช้ประโยชน์ ในการทำการเกษตรปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย ตามกำลังความสามารถของแต่ละครอบครัว เพื่อให้มีรายได้เสริมจากการทำนาซึ่งเป็นอาชีพหลัก โดยทาง อบต.มะตูม ดำเนินการด้าน เครื่องสูบน้ำจากบ่อบาดาล เข้าไปใส่ในถังเก็บน้ำ ส่วนกลุ่มชาวบ้านเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายกระแสไฟฟ้ากันเอง มีการแบ่งสรรปันส่วนตามพื้นที่ของแปลงปลูกผักแต่ละราย
ไป
