วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 ที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดพิษณุโลก ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนพิษณุโลก ถึงการออกใบสั่งขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยศูนย์ควบคุมการจราจรของตำรวจภูธรจ.พิษณุโลก ได้ออกใบเสร็จให้รถของโรงพยาบาลพิจิตรมาชำระค่าปรับ เพราะขับรถด้วยความเร็ว 115 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนทางหลวงหมายเลข 117 หรือ ถนนพิษณุโลก-นครสวรรค์ เส้นทางจากพิจิตรมาพิษณุโลก ขณะขับรถนำผู้ป่วยมาส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก หลังจากโลกออนไลน์มีการโพสต์นำเสนอใบสั่ง หรือ หมายเรียก ดังกล่าว จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ว่ารถพยาบาลที่วิ่งส่งผู้ป่วยก็ไม่ยกเว้น และวันนี้ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกได้เชิญนายศุภโชค ดอนจันทร์เขียว นิติกร โรงพยาบาลพิจิตร นายมานะ เกตุตรง หัวหน้ากลุ่มงานบริการโรงพยาบาลพิจิตรมาร่วมแถลงข่าวด้วย
พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า การจับความเร็วของรถพยาบาลโรงพยาบาลพิจิตร ที่วิ่งมาส่งผู้ป่วยในโรงพยาบาลพุทธชินราชจังหวัดพิษณุโลก จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ไปทั่ว ซึ่งจริงๆแล้ว ได้มีกฎหมายข้อยกเว้นไว้สำหรับรถพยาบาล รถเจ้าหน้าที่กู้ภัย หากมีการปฏิบัติหน้าที่จริง ซึ่งในวันดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจสอบและได้เรียกผู้ขับขี่รถโรงพยาบาลพิจิตร มาตรวจสอบแล้ว และไม่ได้ดำเนินคดีอะไร วันดังกล่าวขับรถมาปฏิบัติหน้าที่ส่งผู้ป่วยที่โรงพยาบาลพุทธชินราชจริง เพียงแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำตามหน้าที่ และเป็นดุลพินิจ ในการออกใบสั่ง และทางโรงพยาบาลพิจิตรก็ไม่ได้ติดใจ และไม่ใช่เป็นผู้โพสต์ภาพหรือให้ข้อมูลใด ๆ จากโรงพยาบาลพิจิตร เป็นไปตามพ.ร.บ.จราจรทางบกพ.ศ.2552 มาตรา 75 กำหนดว่าผู้ขับขี่ขับรถฉุกเฉินและปฏิบัติหน้าที่ ผู้ขับขี่สามารถที่จะดำเนินการ หรือ ขับขี่ฝ่าสัญญาญไฟ หรือ เกินกว่ากฎหมายกำหนดได้ ซึ่งกรณีนี้ ผู้ขับขี่รถพยาบาลพิจิตรก็ไม่ได้มีความผิดใด ๆ
โดยหลังจากแถลงข่าวแล้ว ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก ได้จับมือกับผู้มาร่วมแถลงข่าวจากโรงพยาบาลพิจิตรทั้งสองท่าน แสดงให้เห็นว่าไม่มีปัญหากัน
พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดพิษณุโลก เผยต่อว่า ทางตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ได้มีมาตรการลดอุบัติเหตุและควบคุมการจราจร ทั่วทั้งจังหวัด เป็นการรณรงค์ลดอุบัติภัยทางถนน โดยเฉพาะการตรวจจับความเร็ว ซึ่งผู้ที่สัญจรไปมาในพิษณุโลก จะต้องลดความเร็วเหลือเพียง 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเฉพาะถนนสายหลัก คือ ทางหลวงหมายเลข 117 พิษณุโลก-นครสวรรค์ เส้นทางหลวง 11 พิษณุโลก-อุตรดิตถ์ และเส้นทางหลวงที่ 12 พิษณุโลก-สุโขทัย ซึ่งทั้ง 3 เส้นนี้จะเน้นหนักเพื่อลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุทางด้านจราจร เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่ามีอุบัติเหตุทางท้องถนนมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ จ.พิษณุโลกมีอุบัติเหตุสูงและผู้เสียชีวิตสูงในอันดับต้น ๆ ของประเทศ ซึ่งการตรวจจับความเร็วนั้น ก็ถือว่าได้ผลดีขึ้นคือ สามารถลดอุบัติเหตุทางด้านจราจร
และอนาคตทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ต้องประสานนำพนักงานขับรถ ทั้งโรงพยาบาล และกู้ภัย มาอบรมเรื่องการขับขี่เพื่อความปลอดภัยของผู้ประสบเหตุ เพราะที่ผ่านมามีอุบัติเหตุจากรถกู้ภัยและรถโรงพยาบาลบ่อยครั้งเช่นกัน
…………………………………………………………………………………………………………………………….