จับแก๊งขโมยพระพุทธรูปตามวัดในจ.พิษณุโลก

0004เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559  พลตำรวจตรี อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก พร้อม พันตำรวจเอก สารนัย คงเมือง  รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งลักพระพุทธรูปภายในเขตอำเภอเมืองพิษณุโลกได้ผู้ต้องหาจำนวน 3 รายประกอบด้วยนายจักรพันธ์หรือ เก่ง  สัตยขจร  อายุ 35 ปีอยู่บ้านเลขที่ 113 /1 หมู่ 2 ตำบลพลายชุมพล อำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลก นางสาวสมหญิง หรืออ๊อฟ  อ่ำจีน  อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 192/2 หมู่ 3 ตำบลบ้านใหม่สุขเกษม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดพิษณุโลก และนางสาววนิดา หรืออ้อ บุญมาอายุ 38 ปีอยู่บ้านเลขที่ 29/5 14 ถนนสนามบิน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลกในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ พระพุทธรูปในเวลากลางคืนในสถานที่บูชาสาธารณะหรือรับของโจรพร้อมของกลางเป็นพระพุทธรูป จำนวนหลายองค์ 0001

โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลกได้รับแจ้งจากพระครูอนุวัตร วรธรรม เจ้าอาวาสวัดบางพยอม ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก ว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ได้มีคนร้ายเข้าไปงัดหน้าต่างพระอุโบสถแล้วทำการโจรกรรมพระพุทธรูปซึ่งตั้งประดิษฐานอยู่บริเวณหน้าองค์พระประธาน หลบหนีไปจำนวนหลายองค์0005

ทาง พลตำรวจตรี อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกจึงได้สั่งการเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่สืบสวนเร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วเนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ออกสืบข่าวตามแหล่งจำหน่ายพระในพื้นที่จนกระทั่งทราบเบาะแสว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายเก่ง หรือจักรพันธ์ สัตยขจร จึงได้ออกติดตามจนพบตัวที่บ้านเลขที่ 113 /1 หมู่ 2 ตำบลพลายชุมพลและจากการตรวจค้นบ้านพบของกลางซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านโดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ไปขโมยมาจากภายในพระอุโบสถวัดบางพยอม ได้มาจำนวน 5 องค์  และ ได้ขายพระสามองค์ให้กับ นางจอย ไม่ทราบชื่อและสกุลจริงอายุประมาณ 50 ปีในราคา 5,400 บาท โดยมี นางสาวสมหญิง ร่วมก่อเหตุด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกติดตามสืบสวนและจับกุมตัวนางสาวสมหญิงได้ และขยายผลจับกุม นางสาววนิดา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในผู้ต้องหาที่ร่วมก่อคดี  โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุโจรกรรมพระพุทธรูปในลักษณะนี้มาแล้วจำนวน 6 ครั้งซึ่งจะเป็นวัดภายในเขตอำเภอเมือง และอำเภอพรหมพิรามจังหวัดพิษณุโลกโดยได้พระพุทธรูปเนื้อทองเนื้อทองเหลืองจำนวนมาก จากนั้นก็จะนำไปขายได้เงินมาแบ่งกัน  ซึ่งยังมีผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน ที่ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปตระเวนขโมยพระด้วยกัน และได้หลบหนีไป ขณะนี้ได้ออกหมายจับแล้ว คือนายสุรศักดิ์ หรือ บี สีหะวงษ์0003

0007นอกจากนี้ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกได้ฝากเตือนถึง วัดต่างๆในเขตอำเภอเมืองพิษณุโลกว่าให้ระมัดระวังในเรื่องของการปกป้องทรัพย์สินโดยจะได้ออกพบปะและพูดคุยกับเจ้าอาวาสตามวัดต่างๆและแนะนำให้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดหรือจัดเวรยามเพื่อป้องกันทรัพย์สินสูญหายเพราะช่วงนี้มีการโจรกรรมบ่อยครั้ง และการนำจับแก๊งค์คนร้ายกลุ่มนี้ก็ได้เบาะแสมาจากกล้องวงจรปิดหน้าวัดไผ่ค่อม ที่นายจักรพันธ์และนายสุรศักดิ์ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปภายในวัด0006

0002

แสดงความคิดเห็น