เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 ม.ค. 2559 พ.ต.ท.สันตสิริ เมตตาวงศ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งว่ามีชาวบ้านช่วยกันจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุลักไก่ชนได้ภายในสนามประลองไก่ชน พื้นที่หมู่ 5 ใกล้เคียงวัดสระสี่เหลี่ยม ต.อรัญญิก อ.เมืองพิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยตำรวจสายตรวจรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นสนามประลองไก่ชนพบผู้ต้องหา ทราบชื่อคือ นายคงศักดิ์ จันทคุณ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 164 หมู่ 7 ต.สวนเมี่ยง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก อาชีพรับเหมาต่อเติมบ้าน สภาพใบหน้าบวมปูด ริมฝีปากเจ่อมีเลือดไหลซิบออกมา พร้อมของกลางไก่ชนพันธุ์พม่า เพศผู้ น้ำหนัก 2.5 กก. จำนวน 1 ตัว โดยมี พ.ท.สินชัย เลี่ยมขาว อายุ 59 ปี อดีตข้าราชการทหาร สังกัดค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อยู่บ้านเลขที่ 84/6 ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก เจ้าของไก่ชนตัวดังกล่าว ยืนรออยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมกับควบคุมตัวผู้ต้องหาเอาไว้รอเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบถาม พ.ท.สินชัย เลี่ยมขาว ผู้เสียหาย ให้การว่า ตนชอบเลี้ยงไก่ชนและเลี้ยงเอาไว้ที่บ้านจำนวนหลายตัว และเพิ่งทราบว่าไก่ชนที่ชื่อไอ้สา สายพันธุ์พม่า อายุ 9 เดือน ไก่ชนตัวเก่งที่เลี้ยงไว้และชนะมาแล้วหลายสนาม ซึ่งมีค่าตัวถึง 40,000 บาท ได้ถูกร้ายลักไปจากเล้าไก่ ตนก็รู้สึกตกใจมาก เมื่อสอบถามชาวบ้านใกล้เคียงก็ทราบว่า มีชายไม่ทราบว่าเป็นใครเดินมาอุ้มไก่ออกไปจากเล้าไก่ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ จากนั้นตนจึงรีบออกติดตามหาไก่ชนตามสนามประลองไก่ชนต่างๆ กระทั่งเข้าไปพบว่าที่สนามประลองไก่ชนใกล้เคียงวัดสระสี่เหลี่ยม มีคนเอาไก่ชนคล้ายของตนเองไปประลอง เมื่อตรวจสอบดูก็มั่นใจว่าเป็นไก่ชนของตนเองแน่นอน จึงเข้าไปสอบถามชายคนดังกล่าวถึงกับตกใจหน้าถอดสีและยอมรับว่าเข้าไปขโมยไก่ในบ้านพักของตนจริง ด้วยความโมโหจึงใช้ฝ่ามือตบไปที่ใบหน้า 1 ครั้ง และชาวบ้านช่วยกันจับกุมตัวเอาไว้คอยเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พา นายคงศักดิ์ จันทคุณ ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านผู้เสียหาย พร้อมกับให้การรับสารภาพว่าได้ขโมยไก่ชนไปจริง แต่เพียงแค่อยากยืมไปประลองไก่ชนกับผู้อื่นเท่านั้น เพราะเคยเห็นว่าไก่ชนตัวดังกล่าวชนะมาแล้วหลายสนาม จึงตัดสินใจเข้าไปก่อเหตุลักไก่ชนในที่สุดก็ถูกเจ้าของไก่ติดตามจับกุมตัวได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยังทราบว่ายังมีเซียนไก่ชนอีกหลายคนก็ถูกคนร้ายเข้ามาขโมยไก่ชนในเล้า โดยจะได้สอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งว่าผู้ต้องหาเป็นรายเดียวกันหรือไม่ ก่อนจะส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
////////