วันที่ 27 มกราคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอาทิตยา สนประเทศ นักวิชาการสหกรณ์ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า จากกรณีปัญหายางพาราตกต่ำได้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนยางพาราทั่วประเทศ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางผ่านโครงการต่างๆ ทั้งด้านการส่งเสริมการทำเกษตรเกษตรผสมผสาน และการส่งเสริมให้หน่วยงานราชการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศมากขึ้น จากสถานการณ์ปัจจุบันเกษตรกรยังคงเผชิญปัญหาเรื่องของตลาดและความผันผวนของราคายางตกต่ำในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ โดยสนับสนุนการขับเคลื่อนกลไกตลาดรับซื้อยางพาราผ่านสถาบันเกษตรกร การส่งเสริมให้สถาบันเกษตรกรรวมกลุ่มดำเนินการรวบรวมรับซื้อผลผลิตยางพารา เพื่อสร้างอำนาจการต่อรองราคา ช่วยบรรเทาปัญหาราคายางพาราตกต่ำในเบื้องต้น
นางอาทิตยา สนประเทศ กล่าวว่า จังหวัดพิษณุโลกมีพื้นที่ปลูกยางพาราทั้งหมด 176,951 ไร่ ซึ่งขณะนี้มีเกษตรกรแจ้งใช้สิทธิ์ขึ้นทะเบียน 4,704 ราย มีสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร 10 แห่ง เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ เป็นจุดรับซื้อยาง ประกอบด้วย 1.สหกรณ์การเกษตรยางพาราพิษณุโลก จำกัด 2.กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง สกย.บ้านห้วยตีนตั่ง 3.กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง สกย.ชมพูพัฒนา 55 4.กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง สกย.บ้านแยง 5.กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง สกย.อ.ชาติตระการ 6.กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง สกย.บ้านใหม่ชัยมงคล 7.กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง สกย.บ้านตอเรือ 8.กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง สกย.สี่แยกอินโดจีน 9.กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง สกย. น้ำริน 10.กลุ่มชาวสวนยาง สกย.บ้านไผ่ใหญ่ ถือเป็นจุดรวบรวมรับซื้อที่มีศักยภาพต่อการให้บริการแก่เกษตรกรและส่งมอบยางพาราตามโครงการดังกล่าว โดยมีแผนการรวบรวมรับซื้อยางพารา 2 รอบ คือ กุมภาพันธ์ 2559 และมิถุนายน 2559 ซึ่งจะได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรชาวสวนยางได้รับทราบต่อไป
ด้าน นางกัญญาภัค จันทรสุข ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมสหกรณ์ 4 กล่าวว่า สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก ได้นำหลักการสหกรณ์มาขับเคลื่อนกลไกตลาดรับซื้อยางพาราในพื้นที่ โดยแนะนำส่งเสริมให้สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ใช้วิธีบริหารจัดการกลุ่มรวมกันซื้อ รวมกันขายในธุรกิจรวบรวมผลผลิตยางพาราตามวิธีการ ดังนี้ 1. ให้คณะกรรมการนัดประชุมสมาชิกทุกๆ 15 วัน เพื่อรวบรวมผลผลิตยางทั้งหมดจากสมาชิก จากนั้น จะร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาผลผลิตยางพาราและตลาดรับซื้อ 2. เปิดโอกาสให้พ่อค้าเสนอราคาประมูล ซึ่งต้องไม่ต่ำกว่าราคากลางและเป็นราคาที่เกษตรกรสมาชิกพึงพอใจ 3. การส่งเสริมและพัฒนาให้เกษตรกรสมาชิกผลิตน้ำยางที่ดีมีคุณภาพออกสู่ตลาด ซึ่งจะทำให้เกษตรกรสมาชิกขายผลผลิตง่ายได้ราคาดี เป็นวิธีการรวมกลุ่มแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำ ลดขั้นตอน ลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายในการขนย้าย เพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรสมาชิก ช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อน เป็นหลักการบริหารจัดการธุรกิจที่ดีบนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมทางธุรกิจ เพื่อประโยชน์ของมวลสมาชิกและชุมชน
ขณะที่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง สกย.บ้านใหม่ชัยมงคล ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ที่มีสมาชิกรวมกันกว่า 177 ราย ที่ได้ลงทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกสวนยาง วันนี้สมาชิกจำนวน 60 ราย ต่างบรรทุกยางพาราก้อนถ้วยใส่ท้ายรถกระบะปริมาณรวมกันถึง 80 ตัน รวบรวมมารอจำหน่ายตามราคาประกันของรัฐบาล ซึ่งเป็นยางที่ยังมีความชื้นอยู่ โดยทางรัฐบาลจะรับซื้อในราคา 22.50 บาท หากเป็นยางความชื้น 100 เปอร์เซ็นต์ รัฐบาลจะรับซื้ออยู่ที่ 41 บาท แต่ก่อนหน้านี้จะมีนายทุน หรือพ่อค้าคนกลาง เดินทางมารับซื้อยางพาราแค่ในราคา 13-14 บาทเท่านั้น โดยจะเปิดจุดรับซื้อยางพาราอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 ก.พ. ที่จะถึงนี้อีกด้วย
///////