วันที่ 25 ม.ค.2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณลำน้ำเข็ก บ้านแก่งสฤษดิ์ หมู่ที่ 7 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ไปเล่นน้ำที่ลำน้ำเข็ก ได้กำลังลดน้อยลงในขณะนี้ ทำให้เกิดโขดหินและลานหินเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลให้ประชาชนพาเด็กไปเล่นน้ำได้ แต่ที่สำคัญในปีนี้กลับพบเห็นที่บริเวณลำธารน้ำไหล และตามโขดหิน กลับพบเห็นดอกศิลาวารี หรือดอกไม้น้ำ ซึ่งเป็นดอกไม้น้ำที่หายาก เป็นครั้งแรกของที่แก่งสฤษดิ์แห่งนี้ และนับเป็นแห่งที่ 2 ของจังหวัดพิษณุโลก ที่พบดอกศิลาวารี ขึ้นบนโหดหินกลางลำน้ำ หลังจากที่มีการค้นพบแห่งแรก ที่แก่งคันนา และแก่งป่ากะซาว คลองชมภู หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลวงหลวง ที่ 5 (สล.5) อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ต.ชมพู อ.เนินมะปราง และที่คลองชมพู นั้นได้พบเห็นดอกศิลาวารีได้ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา
โดยลักษณะที่เห็นของดอกศิลาวารี ที่เห็นบริเวณแก่งสฤษดิ์แห่งนี้ มีลักษณะ เป็นดอกตูมเล็กๆขนาดประมาณ 0.5-1เซนติเมตร มีสีส้มอมเหลืองแดงสวยงาม บางจุดอยู่ใต้พื้นน้ำ ก็จะเป็นลักษณะแผงมีดอกตูมมองเห็นสวยงามเช่นกัน ขณะที่บนโขดหินที่มองเห็นเป็นบริเวณกว้าวงนั้นยังพบดอกศิลาวารี ได้มีดอกสีน้ำตาลและใกล้แห้งเหี่ยวหลายจุด เนื่องจากลำธารน้ำได้แห้งขอด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโดยดอกศิลาวารี ที่พบบ้านแก่งสฤษดิ์ ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก แห่งนี้อาจมีปริมาณมากกว่าแก่งคันนา และแก่งป่ากะซาว คลองชมภู หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลวงหลวง ที่ 5 (สล.5) แต่น่าจะเป็นสายพันธุ์ podostemaceae (เพอดอสเทอมาซี่) ที่มักจะพบเห็นตามแหล่งน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังพบว่ามีดอกไม้หินที่แปลกแตกต่างจากดอกศิลาวารีทั่วไปคือ เป็นสีน้ำน้ำตาลดำติดกับก้อนหิน สวยงามอีกด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวประชาชนทั่วไปต้องการไปเที่ยวชมดอกศิลาวารี ที่บริเวณแก่งสฤษดิ์ ต.วังนกแอ่น แห่งนี้ก็สามารถขับรถไปตามเส้นทางวังทอง-หล่มสัก ถึงป้อมแก่งจูงนาง เลี้ยวขวา ไปถึงโรงเรียนบ้านแก่งสฤษดิ์เสนาอุปถัมป์ ให้เลี้ยวเข้าไปเส้นทางข้างโรงเรียนประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงลำน้ำเข็ก ก็สามารถจอดรถไปเที่ยวชมกันได้แล้ว บริเวณแก่งสฤษดิ์ จะอยู่เหนือน้ำตกวังนกแอ่น หรือ น้ำนกสกุโณฑยานประมาณ 3 กิโลเมตร และจุดที่ชมจะแตกต่างจากที่บริเวณแก่งคันนา และแก่งป่ากะซาว คลองชมภู หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลวงหลวง ที่ 5 (สล.5) ที่ไม่สามารถขับรถไปถึงจุดชมได้ โดยคาดว่า ดอกศิลาวารี ที่บ้านแก่งสฤษดิ์นี้ จะยังรอให้นักท่องเที่ยวไปชมอีกประมาณ 2-4 สัปดาห์เท่านั้นและจะแห้งเหี่ยวโรยไปตามกาลเวลา
/////////////