รถรางเที่ยวชมเมืองพิษณุโลก ถือเป็นอีกหนึ่งฟันเฟื่องในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดพิษณุโลก เป็นภาคเอกชนที่ทุ่มเทให้สำหรับการพัฒนาการท่องเที่ยว 14 ปีของรถรางนำเที่ยวผ่านการพัฒนา ปัญหา อุปสรรค พิษณุโลกฮอตนิวส์ ได้สัมภาษณ์ กล้าณรงค์ ภักดิ์ประไพ ผู้บริหารรถรางเที่ยวเมืองพิษณุโลก ถึงที่มาที่ไปและอนาคตในการพัฒนาการท่องเที่ยวของพิษณุโลก
รถท่องเที่ยวชมเมืองนั้นได้พัฒนาดัดแปลงมาจากรถรางในอดีตที่ให้บริการประชาชนในกรุงเทพมหานคร แต่เมื่อสังคม เศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปนั้นรถรางที่เคยอยู่ในระบบขนส่งโดยสารได้ถูกยกเลิกไปในปี พ.ศ.2511 ดังนั้นนายกล้าณรงค์ ภักดิ์ประไพ ได้เล็งเห็นถึงเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดพิษณุโลกในช่วงปี พ.ศ. 2546 บวกกับนโยบายบูรณาการของภาครัฐ (ททท.) ทำให้รถรางเมื่อครั้งเคยเป็นยานพาหนะขนส่งในอดีตกลับมาเปลี่ยนแปลงสถานะของรถท่องเที่ยวของจังหวัดพิษณุโลก
แต่แล้วรถรางจะไม่เกิดขึ้น ถ้าไม่พูดถึงผู้ริเริ่มรถราง นายกล้าณรงค์ ภักดิ์ประไพ เจ้าของกิจการรถรางฟังๆดูแล้วหลายท่านอาจจะคุ้นกับนามสกุล เพราะ ครอบครัวภักดิ์ประไพนี้ มีชื่อเสียงกับเมืองพิษณุโลกทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน ถ้าเป็นในอดีตนั้นช่วงประมาณ พ.ศ. 2506 ที่ได้ก่อกำเนิดรถเมล์บ้านเรา ผู้ก่อตั้งคือ นายอรุณ ภักดิ์ประไพ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองพิษณุโลกในสมัยนั้น และยังเป็นปู่ของนายกล้าณรงค์ ภักดิ์ประไพ
นายกล้าณรงค์ ภักดิ์ประไพ เผยว่า ตนนั้นได้เรียนจบนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลก และได้มีโอกาสได้ไปบริหารรถเมล์บ้านเรากับครอบครัว เมื่อได้เข้าไปดูแลกิจการรถเมล์แล้ว มองเห็นว่า ตนเองและครอบครัวนั้นอยู่กับเมืองพิษณุโลกมานานอยากจะทำอะไรเพื่อจังหวัด บวกกับตนนั้นมีช่องทางเกี่ยวกับเรื่องการขนส่ง เรื่องรถอยู่แล้ว และทางจังหวัดอยากจะสนองนโยบายการท่องเที่ยว ตนเลยคิดการทำรถนำเที่ยว หรือ รถรางขึ้นมาโ ดยเป็นบริษัทเอกชนที่พึ่งพาตนเองมาโดยตลอด ปัจจุบันนี้ได้มีอาชีพหลัก คือ เปิดอู่บริการตรวจสภาพรถ และทำรายการข่าวส่งทางช่อง TTCabal พิษณุโลก
นายกล้าณรงค์ ภักดิ์ประไพ เผยอีกว่า ได้เป็นคนจัดทำทุกอย่างขึ้นมาเองทั้งแผ่นพับ การออกแบบตั๋วรถราง การคิดโปรแกรมนำเที่ยวตามคำขอจากนักท่องเที่ยว เช่น คณะครูต้องการพานักเรียนประถมมาศึกษาดูงานเกี่ยวเศรษฐกิจพอเพียง นายกล้าณรงค์ ก็จะจัดโปรแกรมนำเที่ยวโดยพาเด็กนักเรียนไปทำนาที่วังส้มซ่า หรือ พานักเรียนไปดูงานที่วงษ์พาณิชย์ ในการคัดแยกขยะ การรีไซเคิลขยะ แต่โปรแกรมพวกนี้จะต้องนั่งรถรอบปกติ หรือ รอบเมืองก่อนถึงจะต้องออกไปตามโปรแกรมนำเที่ยวที่ขอมา
ในแผนพับรถท่องเที่ยวชมเมืองจะมีรายละเอียดต่างๆมากมายหน้าปกใช้คำโฆษณาชวนเชื่อให้น่าเที่ยวชมจังหวัดพิษณุโลก ด้านในจะเล่าถึงประวัติรถท่องเที่ยวชมเมืองพิษณุโลก คำขวัญเมืองพิษณุโลก เกร็ดความรู้ของจังหวัด และรูปแบบบริการรถท่องเที่ยวทั้งรอบปกติและรอบพิเศษ กล่าวถึงทีมงานมัคคุเทศก์ท้องถิ่นกับข้อมูลในการนำเสนอของการนั่งชมเมืองพิษณุโลก ด้านหลังนั้นเป็นแผนที่ในเขตเมืองพิษณุโลกในการวิ่งของรถท่องเที่ยวชมเมือง ข้อมูลหลักในการบรรยายของมัคคุเทศก์จะเป็นข้อมูลประวัติศาสตร์เมืองพิษณุโลก สมเด็จพระนเรศวรมหาราช รูปแบบการบริการในแผนพับรถท่องเที่ยวชมเมืองดังนี้
รอบปกติจะเป็นรอบที่คนนิยมใช้บริการกันมากที่สุด เพราะเวลาที่นั่งเที่ยวไม่นานมา 40-50 นาที สำหรับนักท่องเที่ยว นักเรียน คณะดูงาน ข้าราชการต่างๆ จะใช้บริการรอบปกติ แต่นาน ๆ ครั้งก็จะมีรอบพิเศษ 1 ปี จะมีครั้ง รอบพิเศษจะเป็นทัวร์ 9 วัด ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง และต้องนัดเวลาล่วงหน้าก่อน
“…รูปแบบบริการรถท่องเที่ยวแบ่งออกเป็น รอบปกติ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที จุดบริการในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร พาเข้าชมบรรยากาศความเจริญวิถีชีวิตความเป็นอยู่ชาวเมืองสองแคว สภาพอาคารบ้านเรือน ผังเมือง ถนนหนทางที่มีชื่อกษัตริย์,ราชวงค์,ชื่อบุคคล,สิ่งสำคัญในประวัติศาสตร์ บริเวณดูตัวแม่ทัพ “เจ้าพระยาจักรี”พิพิธภัณฑ์ชาวแพ + สวนชมน่านเฉลิมพระเกียรติ สะพานนเรศวร (หัวรถจักรไอน้ำโบราณที่วงเวียนสถานีรถไฟ หอนาฬิกาสะพานนเรศวร,สะพานเอกาทศรถ บริเวณประหารชีวิตนักโทษในอดีต “ตะแลงแกง” คูเมือง ป้อมประตูเมือง ร.ร. จ่าการบุญ,จ่านกร้อง บริเวณพื้นที่ “อุทยานประวัติศาสตร์พระราชวังจันทน์” ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (ค่าบริการในรอบแกตินี้ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ) …” *แต่ถ้าเป็นการเหมาคันใน1,200 บาท นั่งได้ 25-30 คน
หากท่านสนใจที่จะมาเป็นหมู่คณะมีเวลามากหน่อย สามารถเลือกเส้นทางสถานที่ไปได้ เพียงท่านแจ้งเส้นทาง,สถานที่,เวลาที่ท่านมี ทางรถท่องเที่ยวชมเมืองจะเขียนโปรแกรมตามที่ท่านต้องการและนัดวันเวลาที่ท่านสะดวก ตัวอย่างเช่น ท่านมีเวลา 9.00-13.00น. โปรแกรม 3-4 ชั่วโมง
1).ไหว้พระคู่เมือง 3 วัดในประวัติศาสตร์ เยือนถิ่นพระนเรศวร เวลา 9.00น. เดินทางโดยรถรางย้อนยุคจากจุดนัดหมายมนัสการพระพุทธชินราช,หลวงพ่อเพชรวัดจุฬามณี,หลวงพ่อทองดำวัดราชบูรณะมนัสการพระบรมสารีริกธาตุ เวลา 11.00น. กราบสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราชยังถิ่นพระราชสมภพในเส้นทางมีเรื่อราวประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตท้องถิ่นชาวแพ,ลิเก,มุมมองสวยงามและแปลกๆให้ท่านได้ทัศนาอย่างเพลิดเพลิน เวลา 12.00น.รับประทานก๋วยเตี๋ยวบนแพบรรยากาศแม่น้ำน่าน (หรือร้านที่ท่านระบุมา) เวลา 13.00น. เดินทางกลับด้วยความสุขสนุกกับความรู้ประวัติศาสตร์เมืองพิษณุโลก
2).ไหว้พระ 9 วัดแห่งสรวงสวรรค์ (ระยะเวลา 6ชั่วโมง) เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต เดินทางไปกับรถรางย้อนยุคพร้อมด้วยมัคคุเทศก์ อาหารกลางวัน, อาหารว่างน้ำสมุนไพร,น้ำดื่ม อิ่มกายอิ่มบุญไปกับวัดชื่อดังมีประวัติศาสตร์พระพุทธรูป,เกจิอาจารย์ชื่อดัง,สิ่งศักดิ์สิทธิ์,โบราณสถาน,โบราณวัตถุ ทุกซอกทุกมุมของแต่ละวัด เช่น วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดนางพญา วัดจุฬามณี วัดราชบูรณะ วัดอรัญญิก วัดเจดีย์ยอดทอง วัดโพธิญาณ วัดตาชีปะขาวหาย วัดจันทร์ตะวันออก ประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่ท่านจะได้ประทับใจกับทุกหนทุกแห่งที่ท่านพบในเมืองพิษณุโลก ที่มีความหมายถึง “เมืองแห่งสรวงสวรรค์”
หลังจากบริการรถรางนำเที่ยวเมืองพิษณุโลกมา ได้รับรางวัลหลายด้าน อาทิ ปี พ.ศ. 2551 ได้รางวัลดีเด่น บริษัทพิษณุโลกบริการ จำกัด : องค์กรสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยว ประเภทรถนำเที่ยวชมเมือง (รถรางจำลอง) ปีพ.ศ. 2553 คุณกล้าณรงค์ ภักดิ์ประไพ ได้รับรางวัลมัคคุเทศก์ดีเด่นอีกด้วย
จากการที่เราได้ไปลองสัมผัสบรรยากาศนั่งรถรางนั้น นายกล้าณรงค์ นั้นจะทำหน้าที่มักคุเทศน์ และบรรยากาศในการบรรยายนั้น จะมีการพูดคุยกับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นเอง สีสันในการพูดทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกสนุกสนานและอยากจะกลับมาเที่ยวพิษณุโลกอีกครั้ง ส่วนใครที่ยังไม่ได้ลองไปสัมผัสนั้นให้ไปใช้บริการได้ที่จุดจอดรถรางในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เปิดให้บริการตั้งแต่ 9.00น-15.00 น. มีรถรางให้บริการ 3 คัน ค่าบริการปัจจุบัน ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
สุดท้ายนี้ นายกล้าณรงค์ เผยว่า 14 ปี กับการทำรถรางมานั้น จะอยู่หรือไปก็ขึ้นกับเศรษฐกิจ และกระแสการท่องเที่ยวของประเทศไทย ทุกวันนี้บางวันรถรางก็ไม่ได้วิ่งสักรอบ เพราะต้องมีจำนวนคน 10 คนถึงจะได้วิ่ง ถ้าไม่มีคณะนักเรียน หรือทัวร์อื่นๆที่จองไว้นั้น รถรางอาจอยู่ไม่ได้เลย
…………………………………………………………………………………………………………………………………
รายงานโดย น.ส.นิโลบล คำชนแดน นิสิตภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ ม.นเรศวร นศ.ฝึกงานพิษณุโลกฮอตนิวส์ / 20 มกราคม 2559